คลังบทความภาษาไทย

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560

อะไรคือตราประทับทั้งเจ็ดดวงและแตรเจ็ดคัน ใน หนังสือวิวรณ์?

คำตอบ: ตราประทับทั้งเจ็ดดวง (วิวรณ์ 6:1-17 , 8:1-5 ) แตรเจ็ดคัน (วิวรณ์ 8:6-21 11:15-19 ) และขันเจ็ดใบ (วิวรณ์ 16:1-21) ตามติดต่อเนื่องกันสามอย่างในยุคสุดท้ายแห่งการพิพากษาจากพระเจ้า

การพิพากษาค่อย ๆ คืบหน้าเลวร้ายขึ้น และยิ่งทำลายล้างมากขึ้นเมื่อใกล้เวลาถึงยุคสุดท้าย

ตราประทับทั้งเจ็ดดวง แตรและขัน มีความเกี่ยวเนื่องกันและกัน

ตราประทับดวงที่เจ็ด แนะนำแตรเจ็ดคัน (วิวรณ์ 8:1-5) และแตรคันที่เจ็ดแนะนำขันทั้งเจ็ดใบ (วิวรณ์ 11:15-19 15:1-8)

ตราประทับสี่ดวงแรกในเจ็ดดวงเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นผู้ขี่ม้าทั้งสี่คนในบันทึกคัมภีร์ของศาสนาคริสต์

ตราประทับดวงแรกแนะนำปฏิปักษ์พระคริสต์ วิวรณ์ 6:1-2 “ เมื่อพระเมษโปดกทรงแกะตราดวงหนึ่งในเจ็ดดวงนั้นออกแล้ว ข้าพเจ้าก็แลเห็น และได้ยินสัตว์ตัวหนึ่งในสี่ตัวนั้นร้องเสียงดังดุจเสียงฟ้าร้องว่า “มาเถอะ” ข้าพเจ้าก็แลเห็น และดูเถิด มีม้าขาวตัวหนึ่งออกมา และท่านที่ขี่ม้านั้นถือธนู และได้รับพระราชทานมงกุฎ แล้วท่านก็ขี่ม้าออกไปอย่างมีชัย และเพื่อได้ชัยชนะ”

ตราประทับดวงที่สอง เป็นเหตุให้เกิดสงครามใหญ่ วิวรณ์ 6:3-4 “เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่สองนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้ยินสัตว์ตัวที่สองร้องว่า “มาเถอะ” และมีม้าอีกตัวหนึ่งเข้ามาเป็นม้าสีแดงสด ผู้ที่ขี่ม้าตัวนี้ได้รับพระราชานุญาติให้นำสันติสุขไปจากแผ่นดินโลก เพื่อให้คนทั้งปวงรบราฆ่าฟันกัน และท่านผู้นี้ได้รับพระราชทานดาบใหญ่เล่มหนึ่ง” ตราประทับดวงที่สามของเจ็ดดวง เป็นเหตุให้เกิดการกันดารอาหาร วิวรณ์ 6:5-6 “เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่สามนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้ยินสัตว์ตัวที่สามร้องว่า “มาเถอะ” แล้วข้าพเจ้าก็แลเห็น และดูเถิด ม้าดำตัวหนึ่งเข้ามา และท่านที่ขี่ม้านั้นถือตราชู แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียง เหมือนกับว่าดังออกมาจากท่ามกลางสัตว์ทั้งสี่นั้นว่า “ข้าวสาลีราคาทะนานละหนึ่งเดนาริอัน ข้าวบารลีสามทะนานต่อหนึ่งเดนาริอัน แต่เจ้าอย่าทำอันตรายแก่น้ำมันและน้ำองุ่น”

ตราประทับดวงที่สี่ นำมาซึ่งโรคระบาด การกันดารอาหารต่อไป และสงครามต่อไป วิวรณ์ 6:7-8 “เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่สี่นั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงสัตว์ตัวที่สี่ร้องว่า “มาเถอะ”

แล้วข้าพเจ้าก็แลเห็น และดูเถิด ม้าสีกะเลียวตัวหนึ่งเข้ามา ผู้ที่นั่งบนหลังม้านั้นมีชื่อว่ามัจจุราช และแดนคนตายก็ติดตามมาด้วย พระองค์ทรงให้ทั้งสองนี้มีอำนาจล้างผลาญแผ่นดินโลกได้หนึ่งในสี่ส่วน ด้วยคมดาบ ด้วยความอดอยาก ด้วยโรคระบาด และด้วยสัตว์ร้ายแห่งแผ่นดิน”



ตราประทับดวงที่ห้า บอกเรา บรรดาผู้ที่ถูกประหารชีวิตเพราะความเชื่อในพระคริสต์ยุคสุดท้าย วิวรณ์ 6:9-11 “เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่ห้านั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็แลเห็นดวงวิญญาณใต้แท่นบูชา เป็นวิญญาณของคนทั้งหลายที่ถูกฆ่าเพราะพระวจนะของพระเจ้า และเพราะคำพยานที่เขายึดถือนั้น เขาเหล่านั้นร้องเสียงดังว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้บริสุทธิ์และสัตย์จริง อีกนานเท่าใดพระองค์จึงจะทรงพิพากษา และตอบสนองต่อคนทั้งหลายที่อยู่ในโลก” แล้วพระองค์ทรงประทานเสื้อสีขาวแก่คนเหล่านั้นทุกคน และทรงกำชับเขาให้รอต่อไปอีกหน่อย จนกว่าเพื่อนผู้รับใช้ของเขา คือพวกพี่น้องของเขาจะถูกฆ่าเหมือนกับเขาครบจำนวน” พระเจ้าทรงได้ยินเสียงพวกเขาร้องขอความยุติธรรมและจะส่งมอบให้ในเวลาของพระองค์ -- ในรูปแบบของตราประทับดวงที่หกพร้อมกับการพิพากษาด้วยแตร และขันแห่งพระพิโรธ เมื่อตราประทับดวงที่หกของเจ็ดดวงถูกแกะออก แผ่นดินไหวรุนแรงเกิดขึ้น ยกระดับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และความเสียหายร้ายแรง พร้อมกับ ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ผิดปกติ วิวรณ์ 6:12-14 “เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่หกนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้เห็นแผ่นดินไหวใหญ่โต ดวงอาทิตย์ก็กลับมืดดำ ดุจผ้ากระสอบขนสัตว์ และดวงจันทร์วันเพ็ญก็กลายเป็นสีเลือด และดวงดาวทั้งหลายในท้องฟ้าก็ตกลงบนแผ่นดิน เหมือนกับต้นมะเดื่ออันถูกลมกล้าพัดจนทำให้ผลที่ยังไม่ทันสุกหล่นลงหมด ท้องฟ้าก็หายไปเหมือนกับหนังสือที่เขาม้วนขึ้นไปหมด และภูเขาทุกลูกและเกาะทุกเกาะก็เลื่อนไปจากที่เดิม”

บรรดาผู้ที่รอดชีวิตร้องเสียงดังออกมาทันที วิวรณ์ 6:15-17 แล้วกษัตริย์ทั้งหลายในโลก พวกคนใหญ่คนโต นายทหารใหญ่ เศรษฐี ผู้มีอำนาจ และทุกคนทั้งที่เป็นทาสและเป็นอิสระ ก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและโขดหินตามภูเขา พวกเขาร้องบอกกับภูเขาและโขดหินว่า “จงล้มทับเราเถิด จงซ่อนเราไว้ ให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์ผู้ประทับอยู่บนพระที่นั่ง และให้พ้นจากพระพิโรธของพระเมษโปดกนั้น เพราะว่าวันสำคัญแห่งพระพิโรธของพระองค์มาถึงแล้ว และผู้ใดจะทนอยู่ได้เล่า”

แตรเจ็ดคันเป็น " สาระ " ของตราประทับดวงที่เจ็ด วิวรณ์ 8:1-5 “เมื่อพระเมษโปดกทรงแกะตราดวงที่เจ็ด ความเงียบก็ครอบคลุมสวรรค์อยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วข้าพเจ้าก็เห็นทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดองค์ที่ยืนอยู่หน้าพระเจ้านั้น ได้รับพระราชทานแตรเจ็ดคัน และทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งถือกระถางไฟทองคำออกมายืนอยู่ที่แท่น พระเจ้าได้ทรงประทานเครื่องหอมเป็นอันมากแก่ทูตองค์นั้น เพื่อให้ถวายร่วมกับคำอธิษฐานของธรรมิกชนทั้งปวงบนแท่นทองคำที่อยู่หน้าพระที่นั่งนั้น

และควันเครื่องหอมนั้นก็ลอยขึ้นไปพร้อมกับคำอธิษฐานของธรรมิกชนทั้งหลาย จากมือทูตสวรรค์สู่เบื้องพระพักตร์ของพระเจ้า แล้วทูตสวรรค์องค์นั้นก็นำกระถางไปบรรจุไฟจากแท่นจนเต็ม และโยนกระถางนั้นลงบนแผ่นดินโลก ทำให้มีเสียงฟ้าร้อง เสียงต่างๆ ฟ้าแลบและแผ่นดินไหว

แตรทั้งเจ็ดคัน ได้อธิบายไว้ใน วิวรณ์ 8:6-15 “ และทูตสวรรค์เจ็ดองค์ที่ถือแตรทั้งเจ็ดนั้นต่างก็เตรียมพร้อมที่จะเป่า เมื่อทูตสวรรค์องค์แรกเป่าแตรขึ้น ลูกเห็บและไฟ ปนด้วยเลือดก็ตกลงมาบนแผ่นดิน แผ่นดินโลกไหม้ไปหนึ่งในสามส่วน ต้นไม้ไหม้ไปหนึ่งในสามส่วน และหญ้าเขียวสดไหม้ไปหมดสิ้น เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่สองเป่าแตรขึ้น ก็มีสิ่งหนึ่งเหมือนภูเขาใหญ่ กำลังลุกไหม้ถูกทิ้งลงไปในทะเล และทะเลนั้นได้กลายเป็นเลือดเสียหนึ่งในสามส่วน สัตว์ทั้งปวงที่มีชีวิตอยู่ในทะเลนั้นตายเสียหนึ่งในสามส่วน และบรรดาเรือกำปั่นแตกเสียหนึ่งในสามส่วน

เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่สามเป่าแตรขึ้น ก็มีดาวใหญ่ดวงหนึ่งเป็นเปลวไฟลุกโพลงดุจไต้ตกจากท้องฟ้า ดาวนั้นตกลงบนแม่น้ำหนึ่งในสามส่วน และตกที่บ่อน้ำพุทั้งหลาย ดาวดวงนี้มีชื่อบอระเพ็ด รสของน้ำกลายเป็นรสขมเสียหนึ่งในสามส่วน และคนเป็นอันมากก็ได้ตายไปเพราะน้ำนั้นกลายเป็นน้ำรสขมไป เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่สี่เป่าแตรขึ้น ดวงอาทิตย์ก็ถูกทำลายไปหนึ่งในสามส่วน ดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลายก็เช่นเดียวกันจึงมืดไปหนึ่งในสามส่วน กลางวันก็ไม่สว่างเสียหนึ่งในสามส่วน และกลางคืนก็เช่นเดียวกับกลางวัน แล้วข้าพเจ้าก็มองดูและได้ยินนกอินทรีตัวหนึ่งที่บินอยู่ในท้องฟ้า ร้องประกาศเสียงดังว่า “วิบัติ วิบัติ วิบัติ จะมีแก่คนทั้งหลายที่อยู่บนแผ่นดินโลก เพราะเสียงแตรอีกสามคันซึ่งทูตทั้งสามองค์กำลังจะเป่าอยู่แล้ว”

แตรคันแรก ทำให้เกิดลูกเห็บและไฟที่ทำลายชีวิตพืชในโลก (วิวรณ์ 8:7) แตรคันที่สอง นำมาซึ่งสิ่งที่ ดูเหมือนว่าจะเป็น ดาวตกหล่นในมหาสมุทร และเป็นเหตุเกิดการตาย ของหลายชีวิตในทะเลของโลกนี้(วิวรณ์ 8:8-9) แตรคันที่สามคล้ายกับแตรคันที่สอง ยกเว้นว่ามันจะ ส่งผลกระทบต่อทะเลสาบและแม่น้ำ ในโลก แทนที่มหาสมุทร (วิวรณ์ 8:10-11)

แตรคันที่สี่ของแตรเจ็ดคัน เป็นเหตุให้ ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ดับมืดไป (วิวรณ์ 8:12)

แตรคันที่ห้าส่งผลให้เกิดโรคระบาดของ " ตั๊กแตนปีศาจ" ที่โจมตีและทรมานมนุษย์ (วิวรณ์ 9:1-11)

เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเป่าแตรขึ้น ข้าพเจ้าก็เห็นดาวดวงหนึ่งตกจากฟ้าลงมาที่แผ่นดินโลก พระเจ้าทรงประทานลูกกุญแจสำหรับช่องบาดาลให้แก่ดาวดวงนั้น เมื่อท่านเปิดช่องบาดาลนั้น ก็มีควันพลุ่งขึ้นมาจากปากนั้น ดุจควันที่เตาใหญ่ และดวงอาทิตย์และอากาศก็มืดไป เพราะเหตุควันที่ขึ้นมาจากปากนั้น มีฝูงตั๊กแตนบินออกจากควันนั้นมายังแผ่นดินโลก พระเจ้าทรงประทานอำนาจแก่ตั๊กแตนนั้น เหมือนกับอำนาจของแมงป่องแห่งแผ่นดินโลก พระองค์ทรงห้ามมันไม่ให้ทำร้ายหญ้าบนแผ่นดินโลก หรือพืชเขียว หรือต้นไม้ แต่ให้ทำร้ายคนเหล่านั้น ที่ไม่มีตราของพระเจ้าบนหน้าผากของเขาเท่านั้น พระองค์ไม่ให้ฆ่าคนเหล่านั้น แต่ให้ทรมานเขาห้าเดือน การทรมานนั้นเป็นการทรมานที่เหมือนกับถูกแมงป่องต่อย ตลอดเวลาเหล่านั้น คนทั้งหลายจะแสวงหาความตายแต่จะไม่พบ เขาอยากจะตาย แต่ความตายจะหนีไปจากเขา ตั๊กแตนนั้นมีรูปร่างเหมือนม้าที่ผูกเครื่องพร้อมสำหรับออกศึก บนหัวมีสิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนมงกุฎทองคำหน้ามันเหมือนหน้ามนุษย์ ผมมันเหมือนผมผู้หญิง ฟันมันเหมือนฟันสิงห์ มันมีทับทรวงเหมือนกับทับทรวงเหล็ก เสียงปีกมันเหมือนเสียงรถและม้าเป็นอันมากกรูเข้ารบข้าศึก มันมีหางเหมือนหางแมงป่อง และหางมันนั้นมีเหล็กไน อำนาจของมันที่จะทำร้ายมนุษย์ตลอดห้าเดือนนั้นอยู่ที่หาง มันมีทูตแห่งช่องบาดาลนั้นเป็นกษัตริย์ปกครองมัน ชื่อทูตแห่งช่องบาดาลนั้น ภาษาฮีบรูเรียกว่าอาบัดโดนและภาษากรีกเรียกว่าอปอลลิโยน” แตรคันที่หกปลดปล่อยกองทัพปีศาจ ที่ฆ่ามนุษยชาติหนึ่งในสาม วิวรณ์ 9:12-21 “วิบัติอย่างที่หนึ่งผ่านไปแล้ว ดูเถิด ยังมีวิบัติอีกสองอย่างที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่หกเป่าแตรขึ้น ข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงออกมาจากเชิงงอนมุมทั้งสี่ของแท่นทองคำ ที่อยู่เบื้องหน้าพระเจ้า เสียงนั้นสั่งทูตสวรรค์องค์ที่หกที่ถือแตรนั้นว่า “จงแก้มัดทูตสวรรค์ทั้งสี่ที่ถูกมัดไว้ที่แม่น้ำใหญ่นั้น คือแม่น้ำยูเฟรตีส” พระเจ้าทรงเตรียมทูตสวรรค์ทั้งสี่ไว้สำหรับชั่วโมง วัน เดือนและปี ที่จะให้ฆ่ามนุษย์เสียหนึ่งในสามส่วน และมีพลทหารม้าสองร้อยล้าน นี่คือจำนวนที่ข้าพเจ้าได้ยิน ในนิมิตนั้นข้าพเจ้าสังเกตเห็นม้าเป็นดังนี้คือ ผู้ที่นั่งบนหลังม้านั้น ผู้มีทับทรวงสีไฟ สีน้ำเงิน และสีกำมะถัน หัวม้าทั้งหลายนั้นเหมือนหัวสิงห์ มีไฟและควันและกำมะถันพลุ่งออกมาจากปากของมัน มนุษย์ถูกฆ่าเสียหนึ่งในสามส่วนด้วยภัยพิบัติสามอย่างนี้ คือ ไฟและควันและกำมะถันที่พลุ่งออกมาจากปากม้านั้น เพราะว่าฤทธิ์ของม้านั้นอยู่ที่ปากและหาง หางของมันเหมือนงูและมีหัว สิ่งเหล่านี้ทำให้มันทำร้ายคนได้ มนุษย์ทั้งหลายที่เหลืออยู่ ที่มิได้ถูกฆ่าด้วยภัยพิบัติเหล่านี้ ยังไม่ได้กลับใจเสียใหม่จากงานที่มือเขาได้กระทำ ไม่ได้เลิกบูชาผี บูชารูปเคารพที่ทำด้วยทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ หินและไม้ รูปเคารพเหล่านั้น จะดู หรือฟัง หรือเดินก็ไม่ได้ และเขาก็มิได้สำนึกผิดในการฆ่าฟันกัน และการเชื่อเวทมนตร์ การล่วงประเวณี และการลักขโมย แตรคันที่เจ็ดเป็นเหตุให้เกิดทูตสวรรค์เจ็ดองค์ที่ถือขันแห่งพระพิโรธของพระเจ้าเจ็ดใบ(วิวรณ์ 11:15-19 15:1-8)

ขันแห่งพระพิโรธเจ็ดใบได้บรรยายไว้ใน วิวรณ์ 16:1-21 “แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากพระวิหาร สั่งทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดองค์นั้นว่า “จงไปเถิด เอาขันทั้งเจ็ดใบ ที่เต็มไปด้วยพระพิโรธของพระเจ้าเทลงบนแผ่นดินโลก” ทูตสวรรค์องค์แรกจึงออกไป และเทขันของตนลงบนแผ่นดินโลก และคนทั้งหลายที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย และบูชารูปของมันก็เกิดเป็นแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว ทูตสวรรค์องค์ที่สองก็เทขันของตนลงในทะเล และทะเลก็กลายเป็นเลือดเหมือนเลือดของคนตาย และบรรดาสิ่งที่มีชีวิตอยู่ในทะเลนั้นก็ตายหมดสิ้น ทูตสวรรค์องค์ที่สามเทขันของตนลงที่แม่น้ำและบ่อน้ำพุทั้งปวง และน้ำเหล่านั้นก็กลายเป็นเลือด และข้าพเจ้าได้ยินทูตสวรรค์แห่งน้ำร้องว่า “พระองค์ผู้บริสุทธิ์เจ้าข้า ผู้ดำรงอยู่บัดนี้

และผู้ได้ทรงดำรงอยู่ในกาลก่อน พระองค์ทรงเป็นผู้ชอบธรรมในการทรงพิพากษาเหตุการณ์เหล่านั้น เพราะเขาทั้งหลายได้กระทำให้โลหิตของพวกธรรมิกชนและของผู้เผยพระวจนะไหลออก และพระองค์ได้ประทานโลหิตให้เขาดื่ม สมควรแก่กรรมของเขาแล้ว”

และข้าพเจ้าได้ยินแท่นบูชาร้องว่า “จริงอย่างนั้น พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด การพิพากษาของพระองค์เที่ยงตรง และยุติธรรมแล้ว” ทูตสวรรค์องค์ที่สี่เทขันของตนลงที่ดวงอาทิตย์ และให้ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ ความร้อนแรงกล้าได้คลอกคนทั้งหลาย และพวกเขาสาปแช่งพระนามพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ เหนือภัยพิบัติเหล่านั้น และพวกเขาไม่ได้กลับใจและไม่ได้ถวายพระเกียรติแด่พระองค์ ทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเทขันของตนลงบนที่นั่งของสัตว์ร้ายนั้น และอาณาจักรของมันก็มืดไป คนเหล่านั้นได้กัดลิ้นของตนด้วยความระทม และสาปแช่งพระเจ้าแห่งสวรรค์เพราะความเจ็บปวด และเพราะแผลตามตัวของเขา แต่เขาไม่ได้สำนึกในการประพฤติผิดของตน

ทูตสวรรค์องค์ที่หกเทขันของตนลงที่แม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรตีสทำให้น้ำในแม่น้ำนั้นแห้ง เพื่อเตรียมมรรคาไว้สำหรับบรรดากษัตริย์ที่มาจากทิศตะวันออก และข้าพเจ้าเห็นผีโสโครกสามตนรูปร่างคล้ายกบ ออกมาจากปากพญานาค ออกจากปากสัตว์ร้ายนั้น และออกจากปากคนที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ ด้วยว่าผีเหล่านั้นเป็นผีร้ายกระทำหมายสำคัญ มันออกไปหากษัตริย์ทั้งปวงทั่วพิภพ เพื่อให้บรรดากษัตริย์เหล่านั้นร่วมกันทำสงคราม ในวันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด (นี่แน่ะ ข้าพระองค์จะแอบย่องมาเหมือนขโมย ผู้ที่ตื่นอยู่และรักษาเสื้อผ้าของตนไว้อย่างดีจะเป็นสุข เพราะว่าเขาไม่ต้องเดินเปลือยกายให้คนทั้งหลายเห็น) และมันทั้งสามได้ชุมนุมพวกกษัตริย์ที่ตำบลหนึ่ง ซึ่งภาษาฮีบรูเรียกว่าอาร์มาเกดโดน ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดได้เทขันของตนลงในอากาศ และมีพระสุรเสียงดังออกมาจากพระที่นั่งในพระวิหารนั้นว่า “สำเร็จแล้ว”

และเกิดมีฟ้าแลบ มีเสียงต่างๆ มีฟ้าร้อง และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งตั้งแต่มีมนุษย์เกิดมาบนแผ่นดินโลก ไม่เคยมีแผ่นดินไหวร้ายแรงเช่นนี้เลย มหานครนั้นก็แยกออกเป็นสามส่วน และบ้านเมืองของนานาประชาชาติก็ล่มจม พระเจ้ามิได้ทรงลืมมหานครบาบิโลน พระองค์ทรงให้นครนั้นดื่มถ้วยแห่งพระพิโรธอันใหญ่หลวงของพระองค์ และบรรดาเกาะต่างๆ ก็หนีหายไปและภูเขาทั้งหลายก็ไม่มีผู้ใดพบ และมีลูกเห็บใหญ่ ตกลงมาจากฟ้าถูกคนทั้งปวง แต่ละก้อนหนักประมาณห้าสิบกิโลกรัม คนทั้งหลายจึงสาปแช่งพระเจ้า เพราะภัยพิบัติที่เกิดจากลูกเห็บนั้น เพราะว่าภัยพิบัติจากลูกเห็บนั้นร้ายแรงยิ่งนัก การพิพากษาขันเจ็ดใบเกิดขึ้นจากเสียงแตรคันที่เจ็ด

ขันใบแรกก่อให้เกิดบาดแผล เจ็บปวด ที่จะแผ่ขยายท่ามกลางมนุษยชาติ (วิวรณ์ 16:2)

ขันใบที่สองส่งผลให้เกิดความตายของสิ่งมีชีวิตที่งหมดที่อยู่ในทะเล(วิวรณ์ 16:3) ขันใบที่สาม ทำให้ แม่น้ำกลายเป็นสายเลือด (วิวรณ์ 16:4-7)

ขันใบที่สี่ของขันเจ็ดใบ ส่งผลให้ดวงอาทิตย์ปล่อยความร้อนแรงกล้า และทำให้เกิดการเจ็บปวดอย่างแรง (วิวรณ์ 16:8-9) ขันใบที่ห้า ทำให้เกิด ความมืดมิดและบาดแผลรุนแรกขึ้นจากขันใบแรก(วิวรณ์ 16:10-11 ) ขันใบที่หกส่งผลให้แม่น้ำยูเฟรติสแห้งขอด และ กองทัพของปฏิปักษ์พระคริสต์ที่กำลัง ประชุมกันกันเข้าร่วมต่อสู้ในสงครามอามาเกดโดน (วิวรณ์ 16:12-14)

ขันใบที่เจ็ดส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ตามมาด้วย ลูกเห็บใหญ่มหึมา (วิวรณ์ 16:15-21 )

วิวรณ์ 16:5-7 “และข้าพเจ้าได้ยินทูตสวรรค์แห่งน้ำร้องว่า “พระองค์ผู้บริสุทธิ์เจ้าข้า ผู้ดำรงอยู่บัดนี้ และผู้ได้ทรงดำรงอยู่ในกาลก่อน พระองค์ทรงเป็นผู้ชอบธรรมในการทรงพิพากษาเหตุการณ์เหล่านั้น เพราะเขาทั้งหลายได้กระทำให้โลหิตของพวกธรรมิกชนและของผู้เผยพระวจนะไหลออก และพระองค์ได้ประทานโลหิตให้เขาดื่ม สมควรแก่กรรมของเขาแล้ว” และข้าพเจ้าได้ยินแท่นบูชาร้องว่า “จริงอย่างนั้น พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด

การพิพากษาของพระองค์เที่ยงตรง และยุติธรรมแล้ว”


******************************************

เรื่องหนังสือม้วน ตราประทับเจ็ดตรา และแตรเจ็ดแตร


ถาม: แผ่นดินไหวเนปาล ข่าวบอกว่าอาจมีผู้เสียชีวิตถึงเจ็ดพันคน… ตรงนี้ไปเข้ากับแตรที่สองหรือเปล่า
ตอบ: สิ่งที่เราผู้เชื่อควรเรียนรู้… เรื่องหนังสือม้วน ตราประทับเจ็ดตรา และแตรเจ็ดแตร
เหตุการณ์ตั้งแต่ในหนังสือกิจการจนถึงทุกวันนี้ คือระยะเวลาที่พระเยซูแกะตราประทับที่หนึ่ง, สอง, สาม และสี่
ตราที่หนึ่ง — ม้าสีขาว (ข่าวประเสริฐ) สาวกเริ่มประกาศข่าวประเสริฐไปทั่วโลก
ตราที่สอง — ม้าสีแดง (ความตายจากสงคราม) เกิดมีสงครามและการเข่นฆ่าทั่วโลก
ตราที่สาม — ม้าสีดำ (ความตายจากการกันดารอาหาร)
ตราที่สี่ — ม้าสีกะเลียว (มนุษย์หนึ่งส่วนสามตายเพราะเหตุสงคราม และการกันดารอาหาร)

ทุกวันนี้ม้าสี่ตัวนี้กำลังวิ่งเร็วขึ้น เพราะการเก็บเกี่ยวโลกกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้านี้
เราอยู่ในช่วงนี้ คือพระเยซูแกะตราที่ห้าและหก
ตราที่ห้า — ผู้เชื่อที่ถูกฆ่าตายทั้งหมด ร้องทูลต่อพระเจ้าเรื่องการตอบแทนต่อโลก
ตราที่หก — แผ่นดินไหวใหญ่, ดวงอาทิตย์มืดดำ, ดวงจันทร์กลายเป็นสีเลือด, ดวงดาวทั้งหมดตกลงสู่แผ่นดิน, ท้องฟ้าหายไป, ภูเขาทุกลูกและเกาะทุกเกาะก็เลื่อนไปจากที่เดิม และมนุษย์ทั่วทั้งพิภพร้องไห้โหยหวน อยากตายแต่ก็ตายไม่ได้
ชนชาติอิสราเอล 144,000 คนถูกเลือกให้รอด/ผู้ชนะทุกชาติถูกรับขึ้นไปสู่พระที่นั่งในสวรรค์ก่อนแกะตราที่หก

ตราที่เจ็ด (เจ็ดปีแห่งความทุกข์ทรมานเริ่มขึ้น)
เจ็ดปีแห่งความทุกข์ทรมาน สามปีครึ่งแรก
แตรที่หนึ่งจนถึงแตรที่ห้า (วว. 8:1–9:11)
แตรที่หก (วว. 9:12–21)
วิวรณ์บทที่ 10 คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงแตรที่หกถึงแตรที่เจ็ด (10:1–11:13)
วิวรณ์บทที่ 11 (เหตุการณ์ในช่วงสามปีครึ่งสุดท้าย (ตรงกับบทที่ 12))
พยานทั้งสอง (ท่านโมเสสและเอลียาห์)
สัตว์ร้าย — พระคริสต์เทียมเท็จ
พยานทั้งสองถูกฆ่าตายและเป็นขึ้นมาใหม่
แตรที่เจ็ด ผู้เชื่อทุกคนถูกรับขึ้นหมด และทูตสวรรค์เก็บเกี่ยวโลก
การครอบครองโลกของพระคริสต์ในยุคพันปี
การพิพากษาโลก
การครอบครองโลกของพระคริสต์ร่วมกับพระบิดาชั่วนิรันดร์




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น