คลังบทความภาษาไทย

วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

คำอธิษฐานประจำวัน How to say in your prayer


การอธิษฐานอาจเป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ยากสำหรับผู้ที่เพิ่งมาเชื่อพระเจ้า เพราะคิดไม่ค่อยออก ไม่รู้จะพูดอะไรดี  ผู้เชื่อควรเข้าใจว่าการอธิษฐานคือพลังสำคัญในการดำเนินชีวิตกับพระเจ้า  พระเจ้าจะสั่งการให้เป็นไป หรือดลบันดาล หรือใช้ให้ทูตของพระองค์ออกไปทำงานผ่านคำอธิษฐานของผู้เชื่อ  ถ้าเราไม่อธิษฐานเราจะเสียโอกาส และสิทธิพิเศษหลายอย่าง และเป็นการเปิดช่องให้วิญญาณชั่วมารบกวนชีวิตได้ เพราะไม่ได้อธิษฐาน

หากใครไม่ฝึกตนในการอธิษฐาน ไม่แบ่งเวลาเข้าเฝ้าพระเจ้าอย่างจริงจัง ยากนักที่ชีวิตของเขาจะเจริญก้าวหน้าในความเชื่อ  และถ้าชีวิตขาดความเชื่อก็จะขาดพระพร  เป็นผู้เชื่อที่ล้มๆ ลุกๆ ไม่สามารถเดินไปกับพระเจ้าได้ เป็นผู้เชื่อหลายปียังไม่สามารถนำใครมาถึงความรอดได้ เพราะตัวเองยังอ่อนแอ  ดังนั้นใครที่อยากเติบโตในฝ่ายวิญญาณ มีสิทธิอำนาจของผู้เชื่อจึงจำเป็นต้องฝึก ต้องหัด ต้องบังคับตนเองให้อธิษฐานเป็นนิสัย เป็นกิจวัตรประจำวัน

ต่อไปนี้คือคำอธิษฐานที่แอดมินได้รวบรวมมาเป็นแนวทางในการอธิษฐานของคริสเตียนใหม่ หากใครอธิษฐานตามนี้ไม่นานก็จะเติบโต มีชีวิตที่มีพระพรในชีวิตมากมาย  กลายเป็นคริสตชนที่มีความรัก ถ่อมใจ มีสันติสุข มีชีวิตที่มีชัยชนะในชีวิตประจำวัน  และสันติสุขเพราะได้เริ่มต้นชีวิตด้วยการถ่อมใจพึ่งพระเจ้า
.....................................................................................................................

คำอธิษฐานประจำวัน สำหรับคนที่ยังอธิษฐานไม่ค่อยเป็น

ข้าแต่พระยาเวห์ ผู้ทรงเป็นพระบิดาเจ้า ผู้ทรงเป็นพระผู้สร้างและเป็นเจ้าของทุกสรรพสิ่ง ทั้งมองเห็นและมองไม่เห็นได้ ลูกขอมาหาพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์

ลูกขอบพระคุณพระองค์ ที่ที่ทรงทำให้ลูกได้รับสิทธิพิเศษ เป็นประชากรของพระเจ้าสูงสุด สามารถอธิษฐานต่อพระเจ้าโดยตรง ทุกที ทุกเวลา ทุกสถานการณ์

ลูกขอมอบตัวอยู่ในความปกครองของพระเจ้า  ลูกขอตั้งใจแน่วแน่ที่จะละทิ้งวิถีแห่งเนื้อหนัง ความวิตกกังวลใจ ความคิดชั่วร้าย คำพูดโกหก และความบาปทุกชนิด ลูกขอละทิ้งความโกรธ ความเกลียด ความโลภ ความลุ่มหลงในเรื่องกามรมณ์ที่ผิดธรรม การลักขโมย การแสวงหาสิ่งของ ลาภ ยศ สรรเสริญ การแสวงหาการยอมรับ  การเพลิดเพลินกับความสนุกสนานบางอย่างที่อาจทำให้ลูกหลงลืมพระบิดา

ลูกขอให้อภัยทุกคนที่ทำผิดต่อลูก  ลูกไม่เก็บความแค้นไว้ในใจอีกต่อไป ลูกจะตั้งใจดำเนินชีวิตด้วยความรักต่อพี่น้อง ญาติมิตร คนรอบข้าง การสามัคคีธรรมกับพระเจ้า และดำเนินชีวิตเป็นชีวิตที่เป็นเหมือนเกลือและแสงสว่าง อุทิศตัวเพื่อเป็นพรต่อผู้อื่นทุกโอกาส ทุกเวลา ขอพระบิดาทรงปกป้องจิตใจของลูกให้พ้นจากอารมณ์ร้ายทุกอย่าง



(หมายเหตุ:13 ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกอย่างไรได้ แต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะทิ้งเสียสำหรับคนเหยียบย่ำ (มัทธิว 5:13)
พระคริสต์ทรงตรัสสอนว่า ลูกพระเจ้าต้องมีเอกลักษณ์ คือ เราจะต้องเป็นเกลือแห่งโลก
เกลือประกอบด้วย โซเดียมและคลอไรด์ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วมีเอกลักษณ์คือรสเค็ม หากไม่เค็มกไม่ใช่เกลือ  เช่นเดียวกัน แบบอย่างของพระเยซูคริสต์ต้องมีเอกลักษณ์ ึ่งถ้าไม่มีเอกลักษณ์นี้กไม่ถือว่าเป็นลูกพระเจ้า  
การที่เรามีเอกลักษณ์ หรือไม่มีเอกลักษณ์นั้น คนรอบข้างจะเป็นผู้บอกได้ เช่น เมื่อเรามีชีวิตที่แตกต่างจากคนรอบข้าง (ในสิ่งที่ดี) เขาจะพูดว่า "ทำไมคริสเตียนทำอย่างนี้” ก็ให้เรายินดี เพราะว่าเราได้มีเอกลักษณ์ ขอให้เราเป็นเกลือแห่งโลกใบนี้
เกลือมีประโยชน์มากมาย เช่นเดียวกับคริสเตียนมีบทบาทกับสังคม หนุนใจให้เรากล้าเชื่อฟังพระเยซูคริสต์ เพราะพระองค์ประทานสิ่งที่ดีทั้งในโลกนี้และชีวิตนิรันดร์
หน้าที่ของเกลือกสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกคือ คุณเป็นเกลือหรือไม่  หากไม่ใช่เกลือ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่จะทิ้ง คริสเตียนต้องหนุนใจกันให้แสดงเอกลักษณ์ว่าเรามีลักษณะที่เหมือนพระเยซูคริสต์ ต้องบอกกับตัวเองทุกเช้าว่าเราเป็นเกลือ เพื่อให้เรารู้ว่าเราเป็นใครในโลกนี้ จะมีใครด่าว่าเรา เรากจะไม่ต่อว่ากลับ เพราะเราเป็นเกลือแห่งโลกนี้ ดังที่พระเยซูไม่ทรงด่าว่ากลับเมื่อมีคนที่มาด่าว่าพระองค์ แต่กลับทรงให้อภัย
หากเราไม่เป็นเกลือ พระเจ้าก็ไม่พอพระทัยในชีวิต  พระเยซูคริสต์ได้จึงตรัสและย้ำเน้นว่าถ้อยคำของพระองค์เป็นชีวิต เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ"14 ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะปิดบังไว้ไม่ได้
15 เมื่อจุดตะเกียงแล้ว ไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้ ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในเรือนนั้น
16 ท่านทั้งหลายก็เหมือนกับตะเกียง จงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาได้เห็นความดีที่ท่านทำ เขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่าน ผู้ทรงอยู่ในสวรรค์" (มัทธิว 5:14-16)

เมื่อเราเป็นเกลือและสำแดงว่าเราเป็นเกลือ เรากดำเนินชีวิตเป็นความสว่างของโลก เราจะต้องเป็นเกลือก่อน แล้วจึงจะเป็นความสว่างที่จะนำทางคนอื่ได้ หากไม่รู้เอกลักษณ์ของพระเยซูคริสต์ แล้วนำทางคนอื่นก็คือคนนำทางตาบอด
สิ่งสำคัญของการเป็นความสว่าง คือ จะต้องตั้งบนเชิงตะเกียง  หากเรารู้ตัวว่าเราเป็นเกลือ เราจะภูมิใจและไม่ปิดบังคนรอบข้างว่าเป็นคริสเตียน พระเจ้าก็จะตั้งเราไว้บนเชิงตะเกียง หากเราปิดบังไม่ให้คนอื่นรู้ว่าเป็นคริสเตียนแล้วเราต้องตรวจสอบว่าเราเป็นเกลือจริงหรือไม่
ดังนั้น เราควรจะลองสำรวจตัวเองดูว่าเราเป็นเกลือหรือไม่ และเราอยู่ที่เชิงตะเกียงหรือไม่ ถ้าหากเรานำทางคนรอบข้างให้เขามาถูกทาง คนรอบข้างจะดีใจที่มีเราอยู่ในองค์กร เป็นความสว่าง สร้างสันติ เราจะได้รับความสุขทั้ง 8 ประการ
แต่ให้เราสังเกตว่า พระเจ้าทรงประทานความสุขมาก่อน แล้วจึงสั่งงาน
พระเยซูคริสต์เมื่ออยู่ในโลกนี้พระองค์ดำเนินชีวิตที่ถวายเกียรติพระบิดา เราเองก็เช่นเดียวกันต้องดำเนินชีวิตเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า
การกลับใจเป็นช่องที่พระเจ้ายอมรับการกลับมาของเรา ไม่ว่าเราจะทำผิดพลาดอะไร เท่าไหร่มาก็ตาม การกลับใจที่แท้จริงคือการขวนขวายที่จะไม่ทำสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัย ดังนั้นเมื่อเราสำรวจตัวเองและสารภาพต่อพระองค์ พระเจ้าจะเปลี่ยนให้เราเป็นเกลือ เกลือเป็นธาตุที่เสถียร สิ่งที่พระเจ้าสร้างให้กับคริสเตียนก็เช่นเดียวกันเป็นสิ่งที่มีความเสถียร และมั่นคง

เราต้องรู้พระประสงค์ของพระเจ้า ที่มีต่อมนุษย์ และยอมจำนนต่อพระองค์ เพราะพระองค์จะไม่เปลี่ยนแปลงเราถ้าเราไม่ยอมให้พระองค์เข้ามา
ลองถามตัวเองว่าควรไหมที่เราจะเป็นเกลือ ควรไหมที่เราจะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า พระองค์ต้องการให้สิ่งเหล่านี้สำเร็จในชีวิตของเรา และพระองค์จะเป็นผู้กระทำให้สำเร็จ ลูกที่ดีต้องเชื่อฟัง และพระเจ้าจะทรงยินดีถ้าเรายอมต่อพระองค์
คำถามที่เราควรจะถามตัวเอง  คือ
  1. พระเยซูคริสต์ได้ทรงมอบหมายงานของพระองค์ให้สาวกทำต่อ เรายินดีหรือไม่ที่จะทำงานของพระองค์ให้สมบูรณ์ทุกประการ
  2. เมื่อเรายอมเป็นเกลือแล้ว เราอาสาที่จะทำงานของพระองค์ต่อไหม คนที่รู้ใจพระเจ้าจะมุ่งดูว่าอะไรคือพระบัญชาและทำต่อ
  3. พระเจ้ามอบหมายให้เราสร้างแผ่นดินของพระเจ้า เราจะทำหรือไม่ )

ลูกขอปฏิญาณว่าจะแสวงหาพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ ขอปฏิญานว่าจะยำเกรงพระเจ้า และให้จิตใจ ความคิดของลูกผูกพันอยู่กับพระธรรมของพระองค์ ขอความปิติยินดีในพระธรรมของพระองค์คือสุดยอดปรารถนาในชีวิตของลูก เพื่อความสวัสดิภาพของชีวิตของลูกเอง และเป็นพระพรแก่ลูกหลาน และคนทั่วไป

ลูกขอพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นครูสอน เป็นพระผู้ช่วยในการดำเนินชีวิตกับพระเจ้า ขอการทรงสถิตของพระองค์เพิ่มขึ้นในชีวิตทุกๆ วัน ขอทรงขับไล่สิ่งชั่วร้ายใดๆ ที่รบกวนความคิด อารมณ์  จิตใจ และจิตใต้สำนึก  ขอพระบิดาโปรดประทานจิตใจแห่งความรัก การรู้จักบังคับตน  ความยินดีและสันติสุขของพระเจ้าทรงครอบครองเหนือชีวิตจิตใจของลูกทุกเวลา  ทั้งเวลาตื่นและเวลาหลับอยู่

ขอสง่าราศรี พระสิริ และพระโลหิตของพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าอยู่กับลูก   ลูกขอวางใจในการเลี้ยงดูของพระเจ้า ขอทรงปกป้องให้ลูกแคล้วคราดจากกัยอันตราย อุบัติภัย และสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง ขอพระเจ้าเป็นแสงสว่างแห่งชีวิต ขอพระหัตถ์ของพระองค์อยู่เหนือชีวิตของลูก ทุกเวลาตลอดวันนี้

ขอแสงสว่างแห่งพระธรรมและความรักของพระองค์ส่องสว่างผ่านการดำเนินชีวิตของลูก ทางการพูด การกระทำ และสีหน้าท่าทางที่แสดงออก ไปถึงคนในครอบครัว ญาติพี่น้องทุกคน คนรอบข้างและผู้ที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า ขอให้วันนี้เป็นวันที่พระเจ้าทรงนำให้ลูกมีชีวิตที่เป็นพรแก่คนอื่น ขอทรงนำให้พบกับสิ่งใด หรือคนของพระเจ้าที่จะหนุนใจและเติบโตไปด้วยกัน

ขอประทานความเชื่อ และความรักของพระองค์เพื่อลูกจะเป็นลูกแห่งความสันติสุข และเป็นความสว่างแก่ทุกคนที่ลูกได้พบปะสัมพันธ์ด้วย ขอให้ทุกวันแห่งชีวิตของลูกเป็นวันแห่งแสงสว่าง ขอให้เป็นไปตามแผนการแห่งความรักของพระเจ้า ทั้งนี้ขอให้เป็นไปตามชอบใจของพระองค์ทุกประการ  อาเมน

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
คำแนะนำสำหรับการอธิษฐานประจำวัน
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

กรุณาจัดสรรเวลา หรือกำหนดเวลาที่เหมาะที่สุดในการอธิษฐาน ขอแนะนำเวลาเช้าตรู่ ก่อนไปทำงาน  ควรล้างหน้า แปรงฟัน และนุ่งห่มเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ขณะอธิษฐานให้คุกเข่าหันหน้าไปทางหัวเตียง หรือหาที่นั่งข้างเตียง อธิษฐานด้วยคำพูดที่จริงใจและมีสมาธิ ฝ่ามือแบออกทั้งสองข้าง เสมออก  ก้มหัวลง  ตั้งจิตอธิษฐานด้วยวาจาสัจ  อย่าอธิษฐานเหมือนพูดเพ้อเจ้อ  เหมือนเป็นการท่องจำ โดยไม่รู้จักหรือเข้าใจความหมายของสิ่งที่พูด

จัดเตรียมพระคัมภีร์สำหรับการอ่านประจำวัน  มีปากกาและสมุดจดสิ่งที่ได้รับจากการอ่าน บันทึกย่อไว้เพื่ออ่านทบทวนอย่างสม่ำเสมอ  หากพบข้อพระธรรมที่ถูกใจ ให้จดไว้ในสมุดท่องจำข้อพระธรรม แล้วหมั่นทบทวนอยุ่เสมอ  การจดข้อพระธรรมใส่เศษกระดาษแผ่นเล็กๆ นำติดตัวไปทบทวนเสมอจะช่วยให้เราสามารถจดจำพระวจนะได้ดีมากขึ้น

เริ่มการอธิษฐานด้วยการอ่านพระธรรมสดุดีเพื่อสรรเสริญ ขอบพระคุณ


ร้องเพลงเพื่อสรรเสริญพระเจ้า หรือร้องเพลงจากจิตวิญญาณ (คือเพลงที่เราร้องออกไปโดยไม่เคยเรียนรู้มาก่อน หรือถ้อยคำแห่งการสรรเสริญจากจิตใจ จิตวิญญาณของเรา) อาจใช้เครื่องดนตรีประกอบด้วยก็ได้  คนที่ร้องเพลงไม่เป็นเล่นดนตรีไม่เป็น หากมีมือถือ หรือเครื่องเล่นเอ็มพีสาม ก็สามารถเอาเพลงมาจัดเรียงกัน แล้วเปิดร้องนมัสการไปด้วยตนเองได้ (อาจต้องรีเนมเพลงให้มีเลข 1-2-3 ...เรียงไป เวลาเปิดเพลงจะเรียงมาตามที่เรารีเนมไว้)  หรืออาจจะร้องเพลง ท่อนเพลงที่ประทับใจซ้ำๆ

นั่งคุกเข่า ยกมือสองข้างยื่นออกและแบมือหงายขึ้นเหมือนขอตังค์แม่ ทั้งสองข้าง  หรือหมอบกราบ (ท่านี้คือท่าที่คนยิวโบราณเขาทำเมื่ออธิษฐานต่อพระเจ้า ใครที่ไม่คุ้นเคยอาจต้องใช้เวลาฝึก และทำใจ) หากเกิดอาการเจ็บปวดจากการคุกเข่าให้ผ้าเบาะหรือผ้านุ่มๆ มารองหัวเข่าไว้ได้

ศรีษะยกขึ้น หรือก้มหน้า  หรือคุกเข่าในท่าหมอบกราบ  แล้วจึงกล่าวคำอธิษฐาน  การฝึกอธิษฐานเริ่มต้นใหม่ๆ  อาจต้องพูดตามคำอธิษฐานที่เขียนไว้ซ้ำๆ  หากรู้วิธีอธิษฐานก็สามารถกล่าวคำอธิษฐานออกมาจากจิตใจได้เลย

ขณะเมื่ออธิษฐานตั้งจิตว่าพระเจ้ากำลังเพ่งมองดูเราอยู่ตรงหน้า และพระองค์กำลังฟังคำอธิษฐาน อ้อนวอนของเรา  การอธิษฐานด้วยความเชื่อมีพลังทำให้เกิดผลมาก เมื่ออธิษฐานอย่าสงสัยพระเจ้า อย่าอธิษฐานขอพระเจ้าให้ตอบสนองความโลภ   ใช้พระเจ้าทำโน้นนี่ในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับฐานะ หรือสภาวะของตน หรือเพื่อสนองกิเลศตัณหาของตนเอง  การอธิษฐานอาจลงท้ายว่า ขอให้เป็นไปตามชอบใจของพระเจ้า มากกว่าความต้องการของลูก

เมื่ออธิษฐานเสร็จเป็นช่วงๆ  อาจสลับด้วยการร้องเพลงนมัสการ หรือท่องข้อพระธรรม หรือภาวนาพระธรรมบางข้อซ้ำๆ พูดซ้ำๆ จนจำขึ้นใจ อย่าอายที่จะร้องไห้คร่ำครวญกับพระเจ้า

ในการอธิษฐานนานๆ บางครั้งอาจมีคำพูดออกมาจากปากเป็นถ้อยคำที่ตัวเองไม่ได้คิด หรือลิ้นกระดกไปเอง เป็นถ้อยคำ หรือภาษาที่ไม่คุ้นเคย ไม่ต้องตกใจ นั่นคือหมายสำคัญว่า เรากำลังพูดภาษาใหม่

เมื่ออธิษฐานเสร็จ อย่าเพิ่งลุกออกไปจากที่ทันที   นั่งคุกเข่าท่าเดิมรอสักครู่ หลับตา ใคร่ครวญ ลองฟังเสียงในใจ  อาจได้รับการสัมผัส หรือมีถ้อยคำบางอย่าง มาถึงความคิดของเรา ให้จดไว้ และขอบพระคุณพระเจ้า

คำตอบสำหรับคำอธิษฐานอาจเป็นไปได้ว่าพระเจ้าจะตอบโดยไว  หรือรอก่อน หรือ ยังไม่ถึงเวลา  จำไว้ว่าคนโง่เท่านั้นที่กล่าวโทษพระเจ้า  เพราะพระเจ้าเป็นผู้ให้แก่เราตามพระคุณ พระเมตตา ไม่ใช่ด้วยความดีงาม หรือความดีของเรา พระเจ้าไม่ได้เป็นหนี้อะไรเรา  พระองค์ไม่ได้ติดค้างอะไรเรา เราไม่สามารถบังคับให้พระเจ้าทำโน้นทำนี่ตามใจบาป หรือความปรารถนาชั่วของใครๆ

พระเจ้าประทานแก่ทุกคนตามผลแห่งการกระทำของเราด้วย  และโปรดจำไว้ว่าพระเจ้าไม่ใช่ผู้ที่เราจะใช้ให้พระองค์ทำอะไรก็ได้เพื่อตอบสนองเนื้อหนัง และความโลภของมนุษย์บาป

  แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่เหมือนสูตรคณิตศาสตร์ในการตอบคำอธิษฐานของพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงยิ่งใหญ๋ และไม่มีผู้ใดหยั่งรู้ความลึกลับ และพระปัญญาของพระองค์ แต่พระองค์ทรงตอบคำอธิษฐานของเราตามความรัก และพระเมตตาของพระองค์

ขอพระเจ้าอวยพระพรให้ทุกคนที่กล่าวคำอธิษฐานนี้ด้วยจิตวิญญาณและด้วยความจริง
===================================อธิษฐานอย่างถูกต้อง
 
16/09/2018 

มานาประจำวัน

อ่าน: มัทธิว 6:5-15 | อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: สุภาษิต 25-26; 2 โครินธ์ 9

ส่วนท่านเมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน และเมื่อปิดประตูแล้ว จงอธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้สถิตในที่ลี้ลับ- มัทธิว 6:6

ผมชื่นชมคนที่บันทึกหัวข้ออธิษฐานลงสมุดและคอยติดตามผลทุกคำอธิษฐานและคำสรรเสริญอย่างสัตย์ซื่อ และปรับหัวข้ออธิษฐานให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ ผมได้รับแรงบันดาลใจจากผู้ที่ไปร่วมอธิษฐานและผู้ที่คุกเข่าบ่อยจนพรมที่อยู่ข้างเตียงเปื่อย ผมพยายามเลียนแบบสิ่งที่พวกเขาทำอยู่หลายปีเพราะอยากจะมีชีวิตอธิษฐานที่สมบูรณ์แบบ ผมพยายามอธิษฐานอย่างคล่องแคล่วเหมือนกับนักอธิษฐานทั้งหลายและพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นความเร้นลับเพราะผมอยากเรียนรู้วิธีการอธิษฐานที่ถูกต้อง

ในที่สุดผมก็เรียนรู้ว่าพระเจ้าประสงค์เพียงคำอธิษฐานที่เริ่มต้นและจบลงด้วยความถ่อมใจ (มธ.6:5) พระองค์ทรงเชิญชวนให้เราเข้ามาติดสนิทกับพระองค์ แล้วพระองค์จะฟังเรา (ข้อ 6) พระองค์ไม่ต้องการคำพูดที่สวยหรูหรือประโยคที่ท่องจำมา (ข้อ 7) พระองค์ยืนยันว่าการอธิษฐานเป็นของประทานและโอกาสที่จะถวายเกียรติแด่องค์จอมราชา (ข้อ 9-10) เพื่อให้เรามั่นใจว่าพระเจ้าจะทรงจัดเตรียม (ข้อ 11) ทรงอภัยและทรงนำ (ข้อ 12-13)

พระเจ้ายืนยันว่าพระองค์ทรงได้ยินและใส่พระทัยทุกคำอธิษฐานที่เราพูดและไม่พูดออกมา รวมทั้งคำอธิษฐานที่กลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตา เมื่อเราวางใจในพระเจ้าและในความรักที่สมบูรณ์แบบของพระองค์ เราก็มั่นใจได้ว่าการอธิษฐานด้วยใจถ่อมและยอมจำนน เป็นการอธิษฐานที่ถูกต้องเสมอ

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงย้ำเตือนเราว่าพระองค์ทรงฟังทุกคำอธิษฐาน

การร้องหาพระเยซูพระผู้ช่วยให้รอดและองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเป็นการอธิษฐานที่ถูกต้อง

============================================

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น