คลังบทความภาษาไทย

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558

การเปิดเผยเกี่ยวกับนรก


--- (อนุชนคนแรก) ---
(ลูกา 16:19-26 ) เศรษฐีและลาซารัส
16:19 ยังมีเศรษฐีคนหนึ่งนุ่งห่มผ้าสีม่วงและผ้าป่านเนื้อละเอียด รับประทานอาหารอย่างประณีตทุกวันๆ

The Rich Man and Lazarus

16:19 There was a certain rich man, which was clothed in purple and fine linen, and fared sumptuously every day: 
16:20 และมีคนขอทานคนหนึ่งชื่อลาซารัส เป็นแผลทั้งตัว นอนอยู่ที่ประตูรั้วบ้านของเศรษฐี

16:20 And there was a certain beggar named Lazarus, which was laid at his gate, full of sores, 

16:21 และเขาใคร่จะกินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของเศรษฐีนั้น แม้สุนัขก็มาเลียแผลของเขา

16:21 And desiring to be fed with the crumbs which fell from the rich man's table: moreover the dogs came and licked his sores. 

16:22 อยู่มาคนขอทานนั้นตายและเหล่าทูตสวรรค์ได้นำเขาไปไว้ที่อกของอับราฮัม ฝ่ายเศรษฐีนั้นก็ตายด้วย และเขาก็ฝังไว้

16:22 And it came to pass, that the beggar died, and was carried by the angels into Abraham's bosom: the rich man also died, and was buried; 

16:23 แล้วเมื่ออยู่ในนรกเป็นทุกข์ทรมานยิ่งนัก เศรษฐีนั้นจึงแหงนดูเห็นอับราฮัมอยู่แต่ไกล และลาซารัสอยู่ที่อกของท่าน

16:23 And in hell he lift up his eyes, being in torments, and seeth Abraham afar off, and Lazarus in his bosom. 

16:24 เศรษฐีจึงร้องว่า `อับราฮัมบิดาเจ้าข้า ขอเอ็นดูข้าพเจ้าเถิด ขอใช้ลาซารัสมาเพื่อจะเอาปลายนิ้วจุ่มน้ำมาแตะลิ้นของข้าพเจ้าให้เย็น ด้วยว่าข้าพเจ้าตรำทุกข์ทรมานอยู่ในเปลวไฟนี้'

16:24 And he cried and said, Father Abraham, have mercy on me, and send Lazarus, that he may dip the tip of his finger in water, and cool my tongue; for I am tormented in this flame. 

16:25 แต่อับราฮัมตอบว่า `ลูกเอ๋ย เจ้าจงระลึกว่าเมื่อเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าได้ของดีสำหรับตัว และลาซารัสได้ของเลว แต่เดี๋ยวนี้เขาได้รับความเล้าโลม แต่เจ้าได้รับความทุกข์ทรมาน

16:25 But Abraham said, Son, remember that thou in thy lifetime receivedst thy good things, and likewise Lazarus evil things: but now he is comforted, and thou art tormented. 

16:26 นอกจากนั้น ระหว่างพวกเรากับพวกเจ้ามีเหวใหญ่ตั้งขวางอยู่ เพื่อว่าถ้าผู้ใดปรารถนาจะข้ามไปจากที่นี่ถึงเจ้าก็ไม่ได้หรือถ้าจะข้ามจากที่นั่นมาถึงเราก็ไม่ได้'

16:26 And beside all this, between us and you there is a great gulf fixed: so that they which would pass from hence to you cannot; neither can they pass to us, that would come from thence.


พระคำภีร์ไบเบิ้ลได้บอกเอาไว้อย่างชัดเจน เกี่ยวกับ สวรรค์และนรก ในระหว่างที่พวกเราอ่านเรื่องนี้ พระเยซูคริสต์ได้บอกเราเกี่ยวกับ สถานที่ สองแห่ง คือสวรรค์ และนรก  ความรอดจากการไถ่บาปและการลงโทษของความผิดบาป  ไม่มีสถานที่ระหว่างตรงกลาง ไม่มีการปรากฏของสถานที่ระหว่างนรก กับสวรรค์  ไม่มีสถานที่    ที่รอว่าจะไปนรกหรือสวรรค์  สถานที่  ที่จิตวิญญาณของมนุษย์ขณะที่ออกไปจากโลกนั้นคือไปสวรรค์   กับ   นรก   เท่านั้น   และพระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้บอกเอาไว้อย่างชัดเจน        --------------------------------------------------------------

(11 เมษายน 1995) พระเจ้าได้ให้การเปิดเผยนี้แก่พวกเรา ทำให้การดำเนินชีวิตของพวกเราได้เปลี่ยนไป เราได้เริ่มรู้จักพระเจ้าและพระคำของพระองค์   พวกเรา  7 คน ได้ถูกเลือกโดยพระเยซูคริสต์ ที่จะรับผิดชอบ ในการเปิดเผยเรื่องราวนี้ กับคนทั้งโลก  ทุกสิ่งได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณสิบโมงเช้า ขณะที่พวกเราอธิษฐาน และได้จัดเตรียมที่จะออกไปปิกนิค  หลังจากนั้น  ในทันทีทันใดนั้น ก็มีแสงสีขาว  มีพลังอำนาจส่องมาจากหน้าต่างด้านหนึ่ง เมื่อแสงสว่างปรากฏมาถึงพวกเราทั้งเจ็ดคน   ทันทีทันใดนั้นพวกเราก็พูดภาษาแปลกๆ    และได้รับบัพติสมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ 

ในขณะนั้นพวกเราอัศจรรย์ใจและชอบใจมากๆในสิ่งที่พวกเราได้เห็น แสงสว่างเจิดจ้าออกมาทั่วห้อง และเพิ่มความสว่างมากขึ้นเรื่อย เหมือนแสงจากดวงอาทิตย์ ท่ามกลางแสงสว่างจ้านั้น พวกเราได้เห็น เหล่าทูตสวรรค์ สวมเสื้อสีขาว ทูตสวรรค์เหล่านี้สวยงามมาก สูงและดูบุคลิกท่าทางสง่างาม ในท่ามกลางทูตสวรรค์ เราได้เห็นรูปร่างของผู้ชายคนหนึ่ง แต่ดูจะมีลักษณะพิเศษของการทรงมีชีวิต เป็นผู้ชายสวมชุดสีขาวและเสื้อคลุมยาวสีขาวบริสุทธิ์  ผมหยิกสีทอง เราไม่สามารถเห็นใบหน้าได้เพราะพระสิริส่องสว่างจ้า แต่อย่างไรก็ตาม เราได้เห็นเข็มขัดทอง รอบๆหน้าอกเขียนด้วยทองคำ ด้วยอักษรว่า กษัตริย์เหนือกษัตริย์ พระเจ้าเหนือเจ้าทั้งปวง พระองค์ได้สวมรองเท้าทำด้วยทองคำ และความสวยงามไม่มีสิ่งใดจะเปรียบเทียบได้ เมื่อเราเห็นชายท่านนี้ พวกเราทุกคนก็คุกเข่าลงก้มกราบนมัสการท่าน 

หลังจากนั้นพวกเราเริ่มได้ยินเสียง  เป็นเสียงที่พิเศษมีพลังอำนาจและอัศจรรย์   ทุกๆคำที่ลงสู่จิตใจเหมือนดาบสองคม   ดังที่ในพระคัมภีร์เขียนเอาไว้ (ใน ฮีบบรู 4:12 )  ชายท่านนี้พูดด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายแต่มีพลังอำนาจ พวกเราฟังที่พระองค์ตรัส   บอกว่า เด็กตัวน้อยๆของเราเอ๋ย อย่ากลัวเลย เราคือพระเยซูคริสต์ ชาวนาซาเร็ธ   และเราได้เสด็จมาเยี่ยมพวกเจ้าทั้งหลาย เพื่อจะสำแดงสิ่งที่เร้นลับ และพวกเจ้าจะต้องไปสำแดงและบอกในแต่ละตำบล   ในแต่ละเมือง  ทุกชนชาติ ทุกโบสถ์และทุกๆสถานที่  ที่ซึ่งเราจะให้พวกเจ้าไป เจ้าควรไป และที่ซึ่งเราไม่ให้เจ้าไปเจ้าก็ไม่ควรไป  ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมีพระคำของพระเจ้า บอกใน โยเอล 2:28 ในวาระสุดท้ายพระเจ้าจะทรงเทพระวิญญาณของพระองค์เหนือเนื้อหนังทั้งปวง   ต่อมาภายหลังจะเป็นอย่างนี้ คือเราจะเทพระวิญญาณของเรามาเหนือเนื้อหนังทั้งปวง บุตรชายบุตรสาวของเจ้าทั้งหลายจะพยากรณ์ คนชราของเจ้าจะฝันและคนหนุ่มของเจ้าจะเห็นนิมิต  จะมีเวลาที่พระเจ้าจะปรากฏตัวต่อทุกๆคน 

และก็ได้มีบางอย่างเกิดขึ้น คือได้มีหินปรากฏขึ้นในกลางห้อง และพระเยซูคริสต์ ที่สถิตย์อยู่กับเรา ได้เอาพวกเรามาอยู่บนก้อนหินนั้น หินนั้นหนาประมาณ แปดนิ้ว อยู่บนพื้นห้อง และได้มีหลุมใหญ่ปรากฏอยู่ในห้อง และลึกลงไปยังพื้นดิน    แต่มืดสนิท และพระองค์ได้นำเราลงไปยังใจกลางโลก 

ขณะที่เราอยู่ท่ามกลางความมืด  พวกเราได้ตกใจกลัวมาก และพวกเรารู้สึกน่ากลัว และได้บอกกับพระเยซูคริสต์ว่า พวกเราไม่ต้องการไปที่นั่น  อย่าพาเรามาที่นี่ เลย พระองค์เจ้า ได้โปรดพาพวกเราออกไปเถิด

พระองค์ได้ตรัสตอบพวกเราด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะและปลอบประโลมว่า   สิ่งนี้จะเป็นประสบการณ์ที่จำเป็นที่พวกเจ้าทุกคนจะต้องเห็น   และ  ต้องไปบอกพวกคนอื่นๆ 

พวกเราได้เข้าไปในสถานที่    ที่เป็นถ้ำรูปเขา และพวกเราเริ่มมองเห็นเงา   ของพวกปีศาจ เป็นรูปร่าง วิ่งไปวิ่งมา จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง พวกเราได้เข้าไปลึกลงและลึกลงไปเรื่อยๆ   และทุกเวลาทุกนาที พวกเรารู้สึกว่างเปล่าและกลัวมากยิ่งขึ้น

พวกเราได้มาถึงสถานที่    ที่หน้าถ้ำมีหินย้อย และมีประตูที่น่าเกลียด น่ากลัว เหมือนลึกลับ และเราไม่ต้องการจะเข้าไปข้างใน พวกเราสังเกตุและได้กลิ่นเหม็นและความร้อนที่ทำให้หายใจไม่ออกแบบจะตาย แต่เราก็ได้เข้าไป และเราได้เห็นสิ่งที่เลวร้ายแย่มากๆ มีรูปร่างคนที่ต่อสู้กัน สถานที่นี้  ที่เข้าไป   เป็นอ่างเปลวไฟใหญ่ ตรงกลางมีกลุ่มคนเป็นพันๆ พวกเขาได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมาก และสิ่งที่เราเห็นนั้นเป็นสภาพของความเจ็บปวดทรมาน   พวกเราไม่ต้องการจะเห็นสิ่งที่สำแดงต่อเรา สถานที่นี้แบ่งออกเป็นส่วนๆ   ของการทรมานและเป็นความเจ็บปวดทรมานแบบแสนสาหัส เราได้มาถึงส่วนที่หนึ่ง พระเยซูคริสต์ได้ให้เรามองเห็น


เราเรียกว่า อ่างหลุมไฟ ซึ่งมีเป็นล้านๆหลุม แต่ละหลุมลึกลงไปในพื้นดิน    แต่ละหลุมมีไฟที่เผาไหม้เหมือนภูเขาไฟที่มีลาวาอยู่ภายใน ในหลุมมีวิญญาณของแต่ละคนซึ่งตายแล้วไปนรก  ในทันทีที่ดวงวิญญาณเหล่านั้นได้เห็นพระเยซูคริสต์เจ้า พวกเขาเหล่านั้นได้ตะโกนบอกว่า พระองค์เจ้า ได้โปรดเมตตาเราด้วย  ได้โปรดให้โอกาสเราที่จะออกไปจากสถานที่นี้ด้วย    พระเจ้าช่วยเราออกจากที่นี่ด้วย และเราจะไปบอกคนทั้งโลกว่าสถานที่นี้มีอยู่จริงๆ แต่พระเยซูคริสต์ไม่มองแม้แต่หน้าเขา เพราะมีเป็นล้านๆคน ผู้ชายผู้หญิง คนหนุ่มสาว ในสถานที่นี้ พวกเราเห็นพวก โฮโมเซ็กชัวร์และพวกกินเหล้าเมายา อยู่ในการทุกข์ทรมานนี้ด้วย พวกเราได้เห็นคนเหล่านี้ในสภาพที่เจ็บปวดทรมานมากอย่างแสนสาหัส   พวกเราช็อคแบบสุดขีดที่ได้มาเห็น     ร่างกายของพวกเขาถูกทำลาย และหนอนก็ชอนไชออกมาจากลูกตาที่โบ๋ และจากปาก และจากหู และกัดกินเศษเนื้อ ที่ฉีกขาดของพวกเขาทั่วทั้งร่างกาย  ซึ่งได้เขียนไว้ในพระคำภีร์ไบเบิ้ลในพระธรรม อิสยาห์ 66:24  และเขาจะออกไปมองดูซากศพของคนที่ได้ละเมิดต่อเรา เพราะว่าหนอนของคนเหล่านี้จะไม่ตายไป ไฟของเขาจะไม่ดับ และเขาจะเป็นที่น่าสะอิดสะเอียนต่อเนื้อหนังทั้งสิ้น" และใน (มาระโก 9:44)  ในที่นั้นตัวหนอนก็ไม่ตาย และไฟก็ไม่ดับเลย 9:44 Where their worm dieth not, and the fire is not quenched.หลังจากนั้นพวกเรากลัวมากๆในสิ่งที่พวกเรากำลังเห็น พวกเราเห็นไฟไหม้เผาสูง 9 ถึง 12ฟุต ในนั้นมีไฟลุก และมีดวงวิญญาณ  ที่ตายแล้วไปนรก  



พระเยซูคริสต์ได้อนุญาติให้เราเห็น ผู้ชายในหลุมไฟแห่งนี้ด้วย เขาขึ้นลงไปมามีเนื้อหนังอยู่ที่หน้าแต่เศษเนื้อตกลง เขามองดูพระเยซูคริสต์   ด้วยใจจดจ่อแล้ว   แล้วได้ตะโกนบอกว่า ในพระนามพระเยซูคริสต์  เขาพูดว่า ได้โปรดเมตตาด้วย ได้โปรดให้โอกาสเขาด้วย โปรดให้เขาออกไปจากที่นี่ด้วย   

แต่พระเยซูคริสต์ไม่ได้มองแม้แต่หน้าเขาและได้หันหลังให้เขาเมื่อพระเยซูคริสต์ ทำแบบนี้ เขาเริ่มพูดหยาบคาย    และกล่าวโทษต่อพระเจ้า ชายคนนี้คือ จอห์น เลนอน ซึ่งชอบล้อพระเจ้า เขาเป็นสมาชิก ซาตานนักดนตรี  วงเดอะบิสเทิ้ล(ดนตรีแก้เผ็ด) จอห์น เลนอน ได้ล้อเลียนและพูดตลกขบขันเกี่ยวกับ พระเจ้าในระหว่างที่เขามีชีวิตอยู่ เขาเคยพูดว่า คริสเตียนจะไม่มีปรากฏให้เห็นและ พระเยซูคริสต์ทุกคนจะลืมไปในที่สุด แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ เราเห็นชายคนนี้อยู่ในนรก และพระเยซูคริสต์ยังทรงพระชนม์อยู่ และคริสเตียนก็ไม่ได้หายไปเหมือนที่เขาพูด


เมื่อพวกเราเดินไปจนสุดสถานที่แห่งนี้    ดวงวิญญาณเหล่านั้นได้ยื่นมือมาที่พวกเรา  และร้องขอความเมตตา   ขอให้พระเยซูคริสต์ช่วยเอาเขาออกไปจากที่แห่งนี้ แต่พระเยซูคริสต์ ไม่มองแม้แต่หน้าเขา ต่อจากนั้นพวกเราได้เริ่มเดินผ่านไปอีกส่วนหนึ่ง และได้มาถึงนรกที่เป็นส่วนทรมานแบบเลวร้ายที่สุดเป็นเหตุการณ์อยู่ในใจกลางนรก เป็นการถูกทำร้ายที่เข้มข้นที่สุด ในความเป็นมนุษย์    จนไม่สามารถที่จะอธิบายคำเหล่านี้ได้ และพวกนี้คือพวกที่รู้จักพระเยซูคริสต์ และพระคำของพระเจ้า มีพวกศิษยาภิบาล  นักประกาศฟื้นฟู มิชชันนารี และกลุ่มคนที่เคยรับเชื่อพระเจ้าแต่ชีวิตเขาได้สงสัยและได้ดำเนินชีวิตไถลไปกับทางโลก เขาได้ถูกทรมานมากกว่าคนอื่นๆ พวกเขาได้ตะโกนขอความเมตตา    แต่พระคำของพระเจ้ามีเขียนไว้ใน (ฮีบบรู 10:26-27) 


การปฏิเสธพระคริสต์และเครื่องบูชาอื่นๆ

10:26 เมื่อเราได้รับความรู้เรื่องความจริงแล้ว แต่เรายังขืนทำผิดอีก เครื่องบูชาไถ่บาปก็จะไม่มีเหลืออยู่เลย 10:27 แต่จะมีความหวาดกลัวในการรอคอยการพิพากษาโทษและไฟอันร้ายแรง ซึ่งจะกินเอาบรรดาคนที่ขัดขวางนั้นเสีย

พวกเขาได้เทศนา และอดอาหารและร้องเพลง ยกมืออยู่ที่โบสถ์ แต่บนถนน บนบ้านเขา พวกเขาล่วงประเวณี  ผิดในเรื่องเพศ โกหก ลักขโมย  เขาไม่สามารถโกหกพระเจ้าได้    เพราะพระคัมภีร์ได้กล่าวว่า   ลูกา 12:48 แต่ผู้ที่มิได้รู้ แล้วได้กระทำสิ่งซึ่งสมจะถูกเฆี่ยน ก็จะถูกเฆี่ยนน้อย ผู้ใดได้รับมาก จะต้องเรียกเอาจากผู้นั้นมาก และผู้ใดได้รับฝากไว้มาก ก็จะต้องทวงเอาจากผู้นั้นมาก


พระเยซูคริสต์ ได้อนุญาติ ให้พวกเรามองดูผู้หญิงสองคนที่เป็นคริสเตียนขณะที่เขาอยู่บนโลก พวกหล่อนไม่ได้ดำเนินชีวิตที่ชอบธรรม จำเพาะพระพักตร์ของพระเจ้า อีกคนพูดด่าว่าอีกคนหนึ่งว่า  เป็นความผิดของเธอที่ทำให้เราได้มาอยู่ที่นี่ เพราะเธอไม่ได้เทศนาเรื่องการมีชีวิตที่บริสุทธิ์ และเธอไม่ได้บอกฉันเกี่ยวกับความจริง ฉันถึงได้มาอยู่ที่ในนรกแห่งนี้ พวกหล่อนได้พูดสิ่งเหล่านี้ในขณะที่อยู่ท่ามกลางไฟนรก เกลียดชังซึ่งกันและกัน ไม่มีความรัก ไม่มีความเมตตาต่อกัน และไม่ได้ให้อภัยซึ่งกันและกันในนรก


มีดวงวิญญาณผู้คนเป็นจำนวนนับพันที่ได้รู้จักกับพระคำของพระเจ้า แต่ชีวิตของเขาไม่ได้สะอาด บนความบริสุทธิ์ ของพระเจ้า พวกเราไม่สามารถมีใจที่ไม่จริง และ เล่นเกมส์กับพระเจ้าหรือเล่นกับไฟนรกได้   พระเยซูคริสต์ตรัสว่า  ลูกของเราเอ๋ย  สิ่งๆต่างในโลกที่ทรมานที่มากที่สุด ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเปรียบเทียบได้กับคนหนึ่งคนที่ถูกทรมานในสถานที่เลวร้ายที่สุดในนรก (และก็เหมือนบอกพวกเราทุกคนด้วย)


ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวและแย่ที่สุดที่ได้มาทรมานอยู่ในนรกแห่งนี้ ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าในใจกลางนรก และพวกเขาครั้งหนึ่งได้รู้จักพระคำของพระเจ้าแล้วได้หันหลังกลับ  เพราะพระเยซูคริสต์เจ้าได้บอกเราว่า เราไม่สามารถเล่นกับไฟในขณะที่อยู่บนโลกได้   และ   ไม่สามารถเล่นกับไฟในนรกได้ 

พวกเราเดินต่อไปในที่   ที่แตกต่างกัน พระเยซูคริสต์ได้ให้เราเห็นผู้คนในหลายๆรูปแบบ พวกเราเห็นผู้คนเหล่านั้นถูกทรมานอย่างเจ็บปวด ประมาณ หก อย่าง  และดวงวิญญาณเหล่านี้ได้ถูกทรมานโดยซาตานในแต่ละอย่าง แต่มีการทรมานที่พวกเขาบอกกับจิตใต้สำนึกของตัวเอง พูดว่า จำได้ไหมเมื่อมีคนมาเทศนาให้พวกท่าน เมื่อท่านได้ยินพระวจนะของพระเจ้า จำได้ไหมเรื่องราวเกี่ยวกับนรก แต่พวกท่านได้หัวเราะเกี่ยวกับมัน และจิตใต้สำนึกของพวกเขาได้ทรมานเขาเอง เหมือนกันกับหนอนที่ชอนไชไปมาหาตัวเขา และไฟที่เผาไหม้นี้ร้อนมากกว่าความร้อนที่เราเคยได้รู้และได้เห็นเป็นพันๆเท่า   สิ่งเหล่านี้เป็นรางวัลของพวกซาตานและพวกผู้คนเหล่านี้ ที่ได้แสวงหาและติดตามพวกมัน(ซาตาน)ไป
พระคำของพระเจ้า ได้เขียนบอกไว้ในวิวรณ์ 21:8 แต่คนขลาด คนไม่เชื่อ คนที่น่าสะอิดสะเอียน ฆาตกร คนล่วงประเวณี คนใช้เวทมนตร์ คนไหว้รูปเคารพ และคนทั้งปวงที่พูดมุสานั้น จะได้รับส่วนของตนในบึงที่เผาไหม้ด้วยไฟและกำมะถัน นั่นคือความตายครั้งที่สอง 

ต่อจากนั้นพระเยซูคริสต์ ได้ให้พวกเราเห็นผู้ชายที่ได้ฆ่าคนเป็นจำนวน 6 คน  หกคนที่ถูกฆ่าก็ล้อมรอบพวกเขา และได้ตะโกนบอกคนที่ฆ่าเขาว่า มันเป็นความผิดของคนนี้เพราะพวกเราได้มาอยู่ที่แห่งนี้ (พูดเน้นโทษความผิดคนที่ฆ่าพวกเขาหลายรอบ)  ผู้ชายคนนี้พยายามที่จะปิดหูสองข้างเพราะเขาไม่ต้องการได้ยิน  แต่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการได้ยินเสียงนั้นเพราะ ความรู้สึกนึกคิดการได้ยินจะชัดเจนในนรก 


ดวงวิญญาณในนรกได้ทุกข์ทรมาน อย่างแสนสาหัส และได้ร้องขอน้ำเหมือนขอทาน แต่ไม่มีอะไรทางที่จะดับกระหายนั้นออกไปได้เลย เหมือนพระคำภีร์พูดไว้ในเรื่องเศรษฐีกับลาซาลัสขอทาน ลูกา 16:19 ซึ่งเศรษฐีได้อยู่ในนรก ต้องการน้ำเพียงหยดเดียวมาแตะที่ลิ้นก็เพียงพอแล้ว  และพระคำของพระเจ้าใน อิสยาห์ 34:9 และลำธารแห่งเอโดมจะกลายเป็นยางมะตอย และดินของเมืองนี้จะกลายเป็นกำมะถัน แผ่นดินนี้จะกลายเป็นยางมะตอย Isaiah 34:9, "The streams of Edom shall be turned into pitch and her soil into brimstone; her land shall become burning pitch."


ในสถานที่นี้ดวงวิญญาณทุกดวง ได้อยู่ท่ามกลางไฟที่ไม่มีวันดับ  และคนเหล่านี้ได้เห็นเงาสะท้อนของแม่น้ำแห่งชีวิตคริสตัลใสในท่ามกลางไฟนั้นแต่เมื่อเขาพยายามจะจะไปถึงแม่น้ำนั้นได้กลายเป็นไฟและได้เห็นต้นไม้ซึ่งมีผลแต่ไม่มีน้ำแต่เมื่อพวกเขาพยายามจะจับมันก็ไหม้แขนของพวกเขาและพวกปีศาจก็หัวเราะเยาะเย้ย


จากนั้นพระองค์ได้พาเราไปเห็นในสถานที่  ที่แย่กว่านั้นอีก  คือบึงไฟนรกและกำมะถันไฟ  ด้านหนึ่งของบึงไฟนั้นเล็กกว่าอีกด้าน  บึงไฟเล็กๆนั้น ได้เห็นดวงวิญญาณคนเป็นล้านๆคน ร้องไห้ขอความเมตตา ต่อพระเจ้า พวกเขาบอกพระองค์ว่า  พระองค์เจ้าช่วยเอาเราออกจากที่แห่งนี้เพียงชั่วขณะหนึ่ง ขอได้โปรดให้โอกาสพวกเราออกไปจากบึงไฟนี้ แต่พระเยซูคริสต์ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะวิญญาณเหล่านี้ได้ถูกพิพากษาแล้ว 


ท่ามกลางคนที่ตกนรกเป็นล้านๆ พระเยซูคริสต์ได้อนุญาติให้พวกเราจดจ้องไปที่ชายคนหนึ่ง ซึ่งมีครึ่งตัวอยู่ในบึงไฟ พระเยซูคริสต์เจ้าได้เปิดเผย ให้พวกเราเข้าใจความคิดของเขา  ชายคนนี้ชื่อ มาร์ก  พวกเรารู้สึกแปลกใจกับความคิดเขามากๆ  ที่เขาพูดอยู่ในความคิดตัวเองตลอดเวลา ได้เป็นบทเรียนจากนรกตลอดชั่วนิรันดร์ แก่พวกเรา 


มาร์กพูดว่า ผมจะให้ทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อ ที่จะออกไปจากที่แห่งนี้  ผมจะให้ทุกสิ่งเพื่อแลกกับการกลับยังโลกเพียงแค่หนึ่งนาที ผมไม่แคร์ ว่าผมกลับไปจะเป็นคน แบบไหนในโลก เป็นคนทุกข์ทรมานที่สุด เป็นคนป่วยที่สุด เป็นคนที่น่ารังเกียจที่สุด เป็นคนที่จนที่สุดในโลก   ผมจะให้ทุกสิ่งที่มีเพื่อที่จะกลับไป เพียงแค่หนึ่งนาทีที่จะกลับไปยังโลก  พระเยซูคริสต์จับมือของผม และได้ตอบกลับไปในความคิดของมาร์ก  บอกว่า มาร์ก ทำไมถึงอยากจะกลับไปยังโลก  เพียงแค่หนึ่งนาที  ด้วยเสียงที่ที่ร้องไห้แบบทุกข์ทรมานเจ็บปวด มาร์กบอกพระองค์ ว่า พระองค์เจ้า ผมอยากให้ทุกสิ่งเพื่อที่จะกลับไปยังโลก เพียงแค่หนึ่งนาที เพื่อไปกลับใจจากบาปผิดทุกสิ่งทุกอย่างและได้รับความรอด 


เมื่อพระเยซูคริสต์ได้ยินที่มาร์กพูด ผมเห็นพระเยซูคริสต์พระโลหิตออกจากตัวและน้ำตาไหลเป็นเลือดท่วมตา พระองค์ตอบกลับไปว่า มาร์ก เวลานี้สายไปเสียแล้ว หนอนอยู่ในเตียงของมาร์ก หนอนจะปกคลุกมาร์ก ( อิสยาห์ 14:11 ) เมื่อพระเยซูคริสต์ พูดดังนั้น เขาได้จมลงไปในบึงไฟ  เป็นสิ่งที่น่าเสียใจ โศกเศร้าเป็นที่สุดที่ดวงวิญญาณของมนุษย์เหล่านี้ ไร้ความหวัง  เรามีโอกาสที่จะกลับใจแท้จริงเมื่อเรารู้บนโลกในวันนี้ และได้รับโอกาสที่จะไปอยู่สวรรค์กับพระเยซูคริสต์ 

ข้าพเจ้าจะส่งไปให้คนที่สองพูดต่อไป ขอบคุณมากครับ 


--- (คนที่สอง ลูเป้) ---

ขอพระเจ้าอวยพร พี่น้องที่รักท่าน  ได้โปรดอ่านพระคำของพระเจ้า ใน สดุดี 18:9 พระองค์ทรงโน้มฟ้าสวรรค์ลงด้วยและเสด็จลงมา ความมืดทึบอยู่ใต้พระบาทของพระองค์  เมื่อพระเยซูคริสต์ได้จับมือดิฉัน ดิฉันได้จับมือพระองค์อย่างแน่น พวกเราได้ดิ่งลงไปในถ้ำ ถ้ำนี้มืดมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มาถึงจุดที่ดิฉันไม่สามารถมองเห็นมือข้างหนึ่งของตัวเองที่ได้จับมือของพระเยซูคริสต์อยู่  



ในทันทีทันใดนั้น พวกเราผ่านไปยังความมืดและมีประกายไฟซึ่งมีเสียงร้องของนรก  ความมืดแบบมืดสนิท มือของดิฉันไม่สามารถพบกำแพงของถ้ำ พวกเราได้ลงแบบเร็วมากจนดิฉันรู้สึกเหมือนความเร็วนั้นสามารถแยกจิตวิญญาณกับร่างกายดิฉันออกจากกัน  หลังจากนั้นพวกเราได้กลิ่นเหม็นของเนื้อเน่า เน่าเหมือนเนื้อสดที่เน่า ทุกนาทีได้กลิ่นที่เน่าเหม็นแย่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดิฉันได้ยินเสียงร้องโหยหวน ทรมานเจ็บปวดเป็นล้านๆคน เพราะพวกเขาได้ร้องไห้เศร้าโศกเสียใจตะโกนแบบไม่มีวันสิ้นสุด ดิฉันตกใจในความกลัวแบบสุดขีด  ดิฉันได้หันไปถามพระองค์ว่าจะพาดิฉันไปไหน ขอพระองค์เมตตาดิฉันด้วย ขอพระองค์เมตตาดิฉันด้วย พระองค์ได้ตอบเพียงว่า  เป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าต้องรู้เห็นเกี่ยวกับสิ่งนี้  และเจ้าจะได้บอกคนอื่นๆ 


เราได้ลงดิ่งต่อไปถึงถ้ำรูปเหมือนเขาสัตว์ เมื่อพวกเราถึงสถานที่นี้เริ่มเข้าไปในความมืด เหมือนดึงม่านตา  ลงอย่างหนัก ดิฉันเห็น ดวงวิญญาณผู้คนเป็นล้านๆ อยู่ท่ามกลางไฟนรก 


สิ่งที่แย่และเลวร้ายไปกว่านั้น คือ ดิฉันได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยแบบหลอกหลอนแต่ไม่เห็นใครเลย ดิฉันรู้สึกกลัวมาก ดิฉันบอกให้พระองค์ได้โปรดเถิดพระองค์เจ้าข้า ขอเมตตาต่อดิฉัน ได้โปรดเถิดพระองค์เจ้าข้า ขอเมตตาต่อดิฉัน อย่าพาดิฉันไปเลย ขอได้โปรดยกโทษให้ดิฉัน  ในระหว่างนั้นดิฉันไม่ได้คิดว่าดิฉันมาสำรวจนรก เพราะความคิดดิฉันคิดอยู่แต่สิ่งที่เห็นแบบลืมไม่ได้ เมื่อยืนอยู่ต่อหน้าพระเยซูคริสต์  ดิฉันได้สั่นกลัวแบบสุดๆเพราะดิฉันนึกว่าชีวิตดิฉันได้สิ้นสุดลงแล้ว 


ดิฉันได้เดินไปใกล้มากขึ้น  ในไฟนรกขนาดใหญ่ อยู่ตรงข้างหน้า  เป็นการเผาไหม้คลื่นเพลิงไฟขนาดใหญ่ และดิฉันได้เดินเข้าใกล้มากขึ้น ดูการไหม้ของไฟและได้ยินเสียงคนเป็นล้านๆร้องครวญครางร่ำไห้เป็นเสียงเดียวกัน และดิฉันได้เห็นโต๊ะไหม้ ที่ยังไม่ได้มีการเผาเกิดขึ้นและมีเหล้า เบียร์ปรากฏอยู่ สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนสดๆอยู่ แต่ได้เห็นไฟล้อมรอบอยู่ และดิฉันได้เห็นชายคนหนึ่งโผล่ขึ้นมา เหนื้อหนังมังสา ถูกทำลายเกือบทั้งหมด และเสื้อผ้าฉีกขาดติดเพลิงดำ เหนียวๆเพราะการเผาไหม้  และเขาได้สูญเสียตา และปากและผมเผ้าไหม้  หัวล้าน แต่เขาได้เห็นดิฉันถึงแม้ไม่มีตา  และดิฉันบอกได้เลยว่า จิตวิญญาณของเขาคิดด้วยเหตุผลแบบไหน เขาก็เห็นแบบนั้นด้วย แต่ไม่ได้มาจากดวงตาจากร่างกายธรรมชาติของเขาเห็น 


ผู้ชายคนนี้ได้ยื่นแขนที่เปื่อยเน่ามา ตรงไปยังพระเยซูคริสต์ และร้องขอความช่วยเหลือ บอกว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอความเมตตาผมด้วย ขอความเมตตาผมด้วย  ผมเจ็บปวดทรมานแบบสุดๆ ตัวผมไหม้ไปหมดแล้ว ช่วยผมออกจากที่นี่ด้วย  พระเยซูคริสต์มองเขาด้วยความสงสารและดิฉันได้รู้สึกถึงความอุ่นไหลออกจากมือพระเยซูคริสต์ และดิฉันได้เห็นพระโลหิต พระโลหิตของพระเยซูคริสต์  พระโลหิตของพระเยซูคริสต์ได้ไหลออกมาจากมือขณะมองดูผู้ชายคนนี้ถูกเผาในไฟนรก  


ชายคนนี้ได้จ้องมองไปที่โต๊ะและเดินไปที่ขวดเหล้าและเบียร์  แต่เมื่อเขาดื่มจากปากขวด เข้าไป  กลายเป็นไฟ และควันออกจากขวด เขาเงยตัวร้องตะโกนด้วยเสียงแบบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ร้องด้วยความทุกข์ทรมาน และเสียใจอย่างที่สุด และได้กลับเข้าไปดื่มอีก แบบเลิกไม่ได้ และขวดนั้นก็เต็มไปด้วยน้ำกรดที่กัด และทำลายทั้งระบบเมื่อดื่มเข้าไปตั้งแต่ คอหอยจนไปถึงกระเพาะแบบเจ็บปวดทรมาน 

มีตัวเลขเขียนที่หน้าฝากชายคนนี้ ว่า หก หก หก ( 666 )  และที่หน้าอก มีป้ายเขียนเป็นโลหะ ที่ไม่สามารถทำลายได้ ด้วยหนอน หรือความร้อน  ดิฉันไม่เข้าใจว่าป้ายนั้นหมายถึงอะไร แต่พระเยซูคริสต์ได้เมตตาให้ความเข้าใจ ป้ายนั้นเขียนบอกว่า เราอยู่ที่นี้เพราะเราเป็นคนเมาเหล้า เขาขอความเมตตาจากพระเยซูคริสต์ แต่พระวจนะของพระเจ้าได้บอกไว้อย่างชัดเจน ใน(1โครินทร์ 6 :10 ) คนขโมย คนโลภ คนขี้เมา คนปากร้าย คนฉ้อโกง จะไม่ได้รับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก

พระเยซูคริสต์ ได้ให้ดิฉัน เห็น เรื่องราวของผู้ชายท่านนี้ นาทีที่สิ้นชีวิตบนโลก เหมือนหนังที่ฉาย หรือ วีดีโอ  เหมือนทีวีใหญ่ นาทีสุดท้ายที่เขาตาย  ชายคนนี้ทำงานอยู่ใน บาร์ ชื่อหลุย และเขาดื่มเหล้า ดิฉันเห็นโต๊ะเหมือนที่อยู่ในบาร์ และมีเพื่อนเขาอยู่รอบโต๊ะ  ( ดิฉันสามารถบอกได้เลยว่าเพื่อนที่แท้จริงของพวกเราชื่อพระเยซุคริสต์  เพราะพระองค์ เป็นเพื่อนที่สัตย์ซื่อ ) หลุยซ์ไปดื่มกับเพื่อนๆ สุดท้ายเมา เพื่อนที่สนิทที่สุด ถือขวดเหล้า ตีหัวแตก และหลุยซ์ได้นอนดิ้นตายอยู่ที่พื้น และเพื่อนเขาวิ่งหนี  หลุยซ์นอนตายอยู่บนพื้น สิ่งที่เศร้าคือเขาตายแบบไม่มีพระเจ้า  


สิ่งที่อยู่ท่ามกลางไฟเหล่านี้คือ ดวงวิญญาณในนรก ที่ร้องไห้ออกมา ดิฉันถามพระเจ้าว่า ได้โปรดบอกด้วยว่า ชายคนนี้ได้รู้จักพระองค์ไหม ได้รู้จักการไถ่บาปของพระองค์ไหม พระเยซุคริสต์ ตอบว่า ใช่ เขารู้ ลูเป้ เขารู้เรื่องเกี่ยวกับเราและได้ต้อนรับเราเป็นพระผู้ช่วยให้รอด แต่เขาไม่ได้รับใช้เรา ดังนั้นดิฉันก็เลยกลัว หลุยซ์ร้องไห้แบบสุดเสียง ร้องตะโกน บอกพระเจ้าว่าเจ็บปวดมากๆ เจ็บปวดมากๆ ได้โปรดเมตตาด้วยเถิด เขาได้เอามือยื่นมาที่พระเยซูคริสต์   แต่พระเยซูคริสต์ ได้จูงมือดิฉันเดินออกมาจากไฟนั้น และไฟนั้นได้เผาไหม้หลุยซ์ ด้วยความร้อนและเขาร้องเสียงดัง ว่า ได้ โปรดเมตตาด้วย โปรดเมตตาด้วย เขาได้หายกลับไปในไฟ


พวกเราได้เดินไปมาถึงที่กว้างใหญ่น่ากลัว และพวกเราได้ให้ความสนใจกับอีกกลุ่มหนึ่งของไฟนรก และดิฉันบอกพระองค์ว่า พระองค์เจ้าข้า ดิฉันไม่อยากเห็นอีกต่อไป เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้  ดิฉันขอร้องพระองค์ ให้ยกโทษ ได้โปรดยกโทษด้วย เพราะดิฉันไม่ต้องการจะเห็นอีกแล้ว ดิฉันได้ปิดตาแต่ไม่ว่าปิดหรือ เปิดตา ดิฉันสามารถเห็นได้หมด


ทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อไปได้ลึกลงเรื่อยๆ ดิฉันได้เห็นผู้หญิง ตัวเธอเต็มไปด้วยเขม่าควันเหนียวๆ และ ในนั้นได้มีหนอนเต็มไปหมด และเธอเหลือผมอยู่นิดหน่อย  ตัวหนอนได้อยู่เหมือนหน้าเค้ก เหนียวติดพันเธอ เธอได้ถูกหนอนกินรอบๆตัวเธอ  และเธอได้ร้องตะโกนว่า พระองค์เจ้าได้โปรดเมตตาด้วย ได้โปรดยกโทษ  ได้โปรดดูสภาพดิฉัน ดิฉันเจ็บปวดทรมานอย่างมากแล้ว  พระเยซูคริสต์ได้มองเธอด้วยสีหน้าเศร้าหมองเป็นอย่างมาก ความรู้สึกที่พวกเราจับมือพระองค์ พวกเรารู้สึกได้ถึงความ เจ็บปวด ความปวดร้าวในหัวใจของพระเยซูคริสต์  สำหรับดวงวิญญาณที่ได้ตกนรก เป็นนิจนิรันดร์และอยู่บนไฟนรกเป็นนิจนิรันดร์  


ผู้หญิงคนนี้ไม่มีตา และปาก แต่เธอสามารถเห็นและรู้สึกได้ ความเจ็บปวดทรมานนี้เพิ่มมากขึ้น เมื่อเธอได้มีขวดถือที่มือ ซึ่งเธอเชื่อว่าเป็นน้ำหอม และดิฉันสามารถเห็นว่ามันเป็นน้ำกรดและทุกครั้งที่เธอฉีดสเปรย์ทั่วร่างกาย ไฟก็เผาไหม้เธอ แต่เธอก็ยังสเปรย์ต่อไปเรื่อยๆ หลายๆครั้ง เธอบอกว่าน้ำหอมราคาแพงมากๆ  เธอก็ยังเชื่อว่าเธอสวมสร้อยคอสวยงามแต่ดิฉันเห็นเป็นงูพันคอเธออยู่ เธอเชื่อว่าเธอสวมสร้อยข้อมือสิ่งของแพงๆ แต่ดิฉันเห็นคือหนอนยาวหนึ่งฟุตกำลังแยกเขี้ยวกัดกินกระดูกของเธอ เธอบอกว่าสิ่งนี้คือเป็นเครื่องประดับจิวเวลลี่ ที่เธอมีทั้งหมด แต่ที่ดิฉันเห็นคือแมลงป่องและหนอนที่เต็มตัวเธอ ดิฉันเห็นป้ายเขียนเป็นแผ่นเหล็ก และทุกคนที่อยู่ที่นี้แขวนคือ เราอยู่ที่นี่เพราะเราเป็นขโมย  และผู้หญิงคนนี้ไม่ได้โศกเศร้าเสียใจ ต่อความผิดบาปที่เธอได้ทำผิด พระเจ้าถามเธอว่า มักดาเลียนา ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่ในนรกแห่งนี้ เธอตอบว่า ดิฉันไม่สนใจว่าจะขโมยจากใครๆ เพราะดิฉันปรารถนาคือจิวเวลลี่และซื้อน้ำหอมราคาแพงๆ ดิฉันไม่สนใจว่าดิฉันจะขโมยมาจากใคร    ตราบใดเท่าที่ดิฉันดูดี   

ดิฉันได้ยึดมือพระคริสต์อยู่ตอนที่ได้เห็นหนอนชอนไชเข้าออกในร่างกายเธอ มักดาเลียนา หมุนรอบๆตัวไปรอบตัวๆ เหมือนมองหาอะไรสักอย่าง ดิฉันถามพระเยซูคริสต์ว่า  พระองค์เจ้าข้า มักดาเลียนาได้รู้เรื่องราวของพระเยซูคริสต์หรือเปล่า   พระเยซูคริสต์ตรัสว่า ใช่ ผู้หญิงคนนี้ได้รู้เรื่องราวของเรา 
มักดาเลียนา เริ่มต้นมองไปรอบๆและบอกว่า พระเยซูคริสต์ ผู้หญิงที่บอกดิฉันเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์อยู่ที่ไหน เธออยู่ที่ไหน เพราะดิฉันได้อยู่ที่นี้เป็นเวลาสิบเจ็ดปีแล้ว ทุกๆคนในนรก จำทุกสิ่งทุกอย่างได้ มักดาเลียนาได้แต่ถามว่า ผู้หญิงที่บอกดิฉันเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์อยู่ที่ไหน เธออยู่ที่ไหน เพราะดิฉันไม่สามารถเห็นเธอ ดิฉันรู้ว่าร่างกายเธอไม่สามารถหมุนไปรอบๆเพราะเนื้อหนังเธอจะตกอยู่ที่ตรงนั้น เธอพยายามจะหมุนไปดูไฟนรกกลุ่มอื่น แต่ไม่สามารถเห็นผู้หญิงที่บอกเธอเกี่ยวกับการไถ่บาปของพระเยซูคริสต์เจ้า  แต่พระองค์ได้ตอบ  ไม่ ไม่ มักดาเลียนา หญิงคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ เพราะผู้หญิงที่บอกเธอเกี่ยวกับเรื่องของเราได้  อยู่บนสวรรค์กับเรา 

เมื่อผู้นี้ได้ยินเสียงตอบนี้ เธอได้โยนตัวเองลงไปในไฟและเผาไหม้ตัวเองมากไปกว่าเดิมอีก และโลหะที่โชว์ประจาน บอกว่าเธอเป็น ขโมย  ดิฉันต้องการอ่าน พระคำของพระเจ้าใน อิสยาห์ 3:24  ต่อมาแทนน้ำอบจะมีแต่ความเน่า แทนผ้าคาดเอวจะมีเชือก แทนผมดัดจะมีแต่ศีรษะล้าน แทนเสื้องามล้ำค่าจะคาดเอวด้วยผ้ากระสอบ แทนความงดงามจะมีแต่รอยไหม้


 ขณะที่พวกเราเดินอยู่  ดิฉันได้เห็น ทางยาวเต็มไปด้วยหนอน และมีไสลด์ ที่ ทำด้วยโลหะร้อน สีแดง ในทางยาวนี้ เราได้เห็นป้าย แจ่มชัดไปที่สามารถเห็นได้ทุกหนทุกแห่ง  ป้ายใหญ่อ่านว่า ยินดีต้อนรับ คนโกหกและคนซุบซิบนินทา  สุดป้ายนี้มีทะเลสาบลาวาเดือดขนาดเล็ก แต่ไหม้เหมือน ลาวาภูเขาไฟกำมะถัน  ดิฉันเห็น ผู้คนเปลือยกาย ลื่นไถลลงมา ตอนไถลลงมานั้นเนื้อหนังมังสา ได้ หลุดออกเป็นชิ้นๆไปตามการไถล เมื่อคนเหล่านั้นไถลมาถึงการเผาไหม้ในทะเลสาบขนาดเล็ก   ลิ้นของพวกเขา ขยายกว้างและมีหนอนออกมาจากปาก นี้เป็นการทรมานที่พวกเขาได้รับ


สดุดี 73:18 -19  จริงล่ะ พระองค์ทรงวางเขาไว้ในที่ลื่น พระองค์ทรงกระทำให้เขาล้มถึงความพินาศ 73:19 เขาถูกนำไปสู่การรกร้างในครู่เดียวเสียจริงๆ เขาถูกครอบงำด้วยความสยดสยองอย่างสิ้นเชิง 

หลังจากนั้นดิฉันได้เห็น  พวกเราขึ้นมาจากนรก และดิฉันต้องการจะบอกว่า สวรรค์ และนรก เป็นจริงกว่าในโลกที่เรามีชีวิตอยู่นี้ เหมือนที่พวกเรารู้   พวกเราต้องตัดสินใจ ว่าจะเลือกเดินไปทางไหน ที่เราจะใช้ชีวิตแบบนิจนิรันดร์ บนสวรรค์ กับพระเยซูคริสต์ หรือเผาไฟไหม้เป็นนิจนิรันดร์ในนรก พระเยซูคริสต์ ได้ พูดย้ำเสมอ ว่า  ปราศจากความบริสุทธิ์ ผู้นั้นจะไม่เห็นเราพระเยซูคริสต์ ปราศจากความบริสุทธิ์ ผู้นั้นจะไม่พบเราพระเยซูคริสต์ (ฮีบบรู 12:14 )และดิฉันก็บอก เหมือนที่พระเยซุคริสต์ บอกกับดิฉันถึงทุกคน ในขณะนี้ว่า ปราศจากความบริสุทธิ์ ผู้นั้นจะไม่เห็นพระเจ้า 

 --- (คนที่สาม แซนด้า) ---

ให้พวกเราเปิดพระคำของพระเจ้า ในมัทธิว 10:28 อย่ากลัวผู้ที่ฆ่าได้แต่กาย แต่ไม่มีอำนาจที่จะฆ่าจิตวิญญาณ แต่จงกลัวพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ที่จะให้ทั้งจิตวิญญาณทั้งกายพินาศในนรกได้  เมื่อไรก็ตามที่ดวงวิญญาณของคนมาถึงนรก แยกจากร่างที่ตายแล้ว พระเยซูคริสต์ ได้จับมือดิฉัน และพวกเราได้เริ่มต้นลงไปในถ้ำมืดลึกมากๆจนไปถึงใจกลางโลก พวกเรามาถึง 

ประตูหลายบานและมีประตูหนึ่งเปิดอยู่ และพวกเราได้เข้าไปกับพระเยซูคริสต์  ดิฉันได้จับมือพระเยซูคริสต์ไว้อย่างแน่นเพราะว่าถ้าไม่เช่นนั้น(ถ้าปล่อยให้มือหลุด)ดิฉันคงอยู่ในนรกเป็นนิจนิรันดร์  ในระหว่างเดินอยู่ในถ้ำก่อนเข้าไปในประตู ดิฉันได้เห็นกำแพงใหญ่มากๆ เมื่อเข้าไปมีผู้คนจำนวนมากได้แขวนศรีษะด้วยห่วงตะขอ(รูปตัวเอส)และมีโซ่ล่ามที่มือผูกติดอยู่กับกำแพง และมีผู้คนยืนอยู่ ท่ามกลางไฟนรกทั่วไปหมด 


พวกเราได้เดินไปอยู่หน้าไฟนรกที่หนึ่งและได้เริ่มเดินไปอย่างช้าๆ ในขณะนั้นได้เห็นผู้คนอยู่ข้างใน เมื่อเขาพูดดิฉันรู้ว่าเป็นเสียงผู้ชาย และเป็นผู้ชายที่สวมเสื้อเทศนาซึ่งปกสรกและขาดวิ่นเป็นชิ้นส่วน หนอนได้ชอนไชเข้าไปข้างในออกมาข้างนอก ไปทั่วทั้งร่างของผู้ชายคนนี้  ร่างเขาดูเหมือนจะถูกเผาภายนอก ดวงตาเขาถลุนออกมาจากเนื้อที่ถูกละลายและตกลงไปที่พื้น และหลังจากเนื้อหนังมังสา หลุดได้กลับคืนมาในสภาพก่อนและร่วงตกไปที่พื้นใหม่อีก


เมื่อเขามองพระเยซูคริสต์ เขาบอกว่า พระองค์เจ้าข้า ขอได้โปรดเมตตาต่อผมด้วย ได้โปรดเมตตาต่อผม กรุณาเมตตาต่อผมด้วย ได้โปรดให้ผมออกไปจากนี้เพียงชั่วขณะหนึ่ง เพียงสักครู่เดียว และบนหน้าอกชายคนนี้เขียนด้วยป้ายแผ่นโลหะว่า ผมมาอยู่ที่นี่เพราะเป็นขโมย  


เมื่อพระเยซูคริสต์ได้เดินเข้ามาใกล้  ได้ถามผู้ชายคนนี้ว่า เจ้าชื่ออะไร  ผู้ชายคนนี้ตอบว่า แอนดูร์ (พูดย้ำอีก)พระองค์เจ้าข้าผมชื่อแอนดูร์ พระองค์ได้ถามเขาต่อไปว่า  นานเท่าไรที่เจ้าอยู่ที่นี่   แอนดูร์ ได้ตอบว่า ผมได้อยู่ที่แห่งนี้นานมาก ชายคนนี้ได้บอกเรื่องราวของเขา  ว่าเขาได้มีความรับผิดชอบเกี่ยวกับการเก็บเงินถวายสิบลด และได้เป็นคนจัดการที่เอาเงินให้กับคนจนในโบสถ์ คาทอลิก แต่อย่างไรก็ตาม  เขาจะต้องขโมยเงินนั้นมาแทนที่ สายตาของพระเยซูคริสต์ ได้มองเขาด้วยความสงสาร แล้วถามชายคนนี้ว่า แอนดูร์ แล้วเจ้าได้ยินเกี่ยวกับข่าวประเสริฐในการตายไถ่บาปของเราไหม  แอนดูร์ ตอบว่า เคยได้ยินพระองค์เจ้าข้า แอนดูร์เล่าต่อไปว่า มีผู้หญิง คริสเตียนคนหนึ่ง  ที่ได้มาถึงที่โบสถ์คาทอลิก และได้เทศนาข่าวประเสริฐหนึ่งครั้ง แต่ข้าพระองค์ไม่ได้ยอมรับและไม่ได้รับเชื่อ และผมไม่ต้องการที่จะเชื่อ แต่ตอนนี้ผมเชื่อแล้ว และผมรู้แล้วว่าสถานที่แห่งนี้   นรกนี้มีจริง  ได้โปรดให้ช่วยผมออกจากที่แห่งนี้ แค่เพียงสักครู่  


ขณะที่เขาพูดคำนี้ หนอนได้ชอนไชเข้าออกมาจากเบ้าตาของเขา ออกมาจากหู สองข้างและเข้าไปในหูอีก และได้เข้าไปในปากของเขา เขาพยายามที่จะเอาหนอนออกด้วยมือของเขา แต่ว่าเป็นไปไม่ได้ เขาได้ตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน และพูดขอร้อง ขอร้องแล้ว ขอร้องอีก  ขอความเมตตาต่อพระเจ้า  เขาขอให้พระเยซูคริสต์ เอาเขาออกจากที่แห่งนี้ แต่สิ่งที่แย่ไปกว่านั้น คือ  พวกปีศาจได้ ทรมานเขาด้วย แทงเขาด้วยหอกออกเป็นชิ้นๆ  พวกปีศาจเหล่านี้ ดูเหมือนพวกของเด็กเล่น ที่อยู่บนโลก ที่เรียนว่า   โจนาโดส  The Jordanos  แต่ดิฉันได้เห็นพวกปีศาจนี้ในนรก  แต่พวกปีศาจที่อยู่ในนรก ไม่ใช่ของเล่นเด็ก อีกต่อไป แต่พวกปีศาจนั้นมีชีวิต และเป็นวิญญาณชั่วร้าย พวกเขาสูง 3 ฟุต และมีฟันเป็นเขี้ยวแหลมยาว เลือดไหลออกมาจากปากของพวกปีศาจ และดวงตาปีศาจนั้นสีแดงกล่ำ 

 พวกปีศาจได้แทงไปที่ตัวของแอนดูร์ด้วยสุดแรงของพวกปีศาจ และได้แทงคนอื่นที่มีส่วนอยู่ในนรก  เมื่อดิฉันได้สังเกตุพวกปีศาจนี้ ดิฉันได้ถามพระเยซูคริสต์ ว่าทำไมหน้าตาของพวกมันถึง ได้เหมือนกันกับพวกของเล่นตุ๊กตาที่อยู่บนโลก แต่ดูเหมือนพวกปีศาจพวกนี้มีแบบพิมพ์เดียวกัน พระเยซูคริสต์ได้ตรัสตอบว่า พวกปิศาจเหล่านี้เป็นวิญญาณแห่งความโศกเศร้า  

พวกเราได้มองดูเห็นผู้คนนับเป็นพันๆอยู่ในการถูกทำร้าย ถูกทรมานด้วยพวก ปิศาจ  เมื่อไรก็ตามที่ดวงวิญญาณผู้คนได้เห็นพระเยซูคริสต์ เขาได้พยายามยื่นมือที่มีแต่เนื้อที่หลุดลุ่ยออกมาที่จะถึงพระเยซูคริสต์  ดิฉันได้สังเกตุเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเริ่มที่จะตะโกนเมื่อเห็นพระเยซูคริสต์   หล่อนได้ร้องตะโกนบอกว่า  พระองค์เจ้าข้าได้โปรดเมตตาดิฉันด้วย ได้โปรดเอาดิฉันออกไปจากที่นี่  หล่อนได้ทรมานเป็นอย่างมาก และหล่อนได้ยื่นแขนออกมาที่พระเยซูคริสต์ หล่อนได้ขอร้องแล้ว ขอร้องอีก ให้เอาเธอออกไปจากที่นี่อย่างน้อยหนึ่งวินาที  หล่อนได้เปลือยกายทั้งหมดและปกคลุมด้วยเขม่าเหนียว ผมของหล่อนสกปรก และหนอนชอนไชไปมาทั่วร่างกาย ของเธอ หล่อนพยายามที่จะดึงหนอนออกด้วยมือ แต่ทุกครั้งที่ดึงออก ที่อื่นก็มีเพิ่มขึ้น หนอนตัวใหญ่ประมาณ 6-8 นิ้ว แต่มีพระคำของพระเจ้าบอกไว้ใน มาระโก 9:44 ในที่นั้นตัวหนอนก็ไม่ตาย และไฟก็ไม่ดับเลย  เป็นความรู้สึกเสียใจที่ได้เห็นผู้หญิงคนนี้ และได้ยินเสียงร้องไห้ของหล่อนที่หนอนได้กินเนื้อของเธออย่างรวดเร็ว และ มีป้ายแผ่นเหล็กที่ไม่สามารถทำลายด้วยไฟนรก เขียนปักไว้ที่หน้าอก  ซึ่งอ่านว่า ดิฉันอยู่ทำบาปแห่งการล่วงประเวณี   และในลักษณะเดียวกันบาปของเธอ  ผู้หญิงคนนี้ได้ถูกบังคับอย่างแรงที่จะให้ล่วงประเวณีกับงูใหญ่อ้วน แบบน่าเกลียดจนอยากจะอ้วกออกมา  งูใหญ่อ้วนมีหนามแหลมยาวประมาณหกถึง แปดนิ้วได้ม้วนรัดตัวหล่อนและได้เข้าข้างในของอวัยวะเพศส่วนตัวของหล่อนและเลื้อยไปตามตัวถึงคอ เมื่องูได้เลื้อยเข้าไป ผู้หญิงคนนี้ได้ร้องกรี๊ดแบบสุดเสียงด้วยความหวาดกลัว


หล่อนได้ร้องขออย่างมากจากพระเยซูคริสต์ ที่จะให้พระองค์เอาหล่อนออกจากที่แห่งนี้ และได้ทูลบอกพระองค์ว่า เธอได้อยู่ที่นี่เป็นเพราะทำผิดบาปแห่งการล่วงประเวณี และได้อยู่ที่นี่เป็นเวลาเจ็ดปีแล้ว   ตั้งแต่ตายด้วยโรคเอดส์ ดิฉันมีคนร่วมรักหกคน และดิฉันได้ทำผิดบาปแห่งการล่วงประเวณี จึงได้มาอยู่ในที่นรกแห่งนี้ ในนรกหล่อนได้พูดซ้ำแล้วซ้ำอีก หล่อนไม่ได้พักทั้งกลางวันกลางคืน หล่อนได้ทรมานเจ็บปวดมากๆ ในเวลาเดียวกัน หล่อนพยายามที่จะยื่นแขนตรงออกมาที่พระเยซูคริสต์ แต่พระเยซูคริสต์ ได้บอกหล่อนแต่เพียงว่า  บลังการ์ ตอนนี้สายไปเสียแล้ว หนอนได้เป็นเตียงของเธอและหนอนจะปกคลุมเธอ อิสยาห์ 14:11


หลังจากพระเยซูคริสต์ พูด ดิฉันไม่สามารถเห็นเธออีกเลย   พวกเรายังคงเดินต่อไป และเห็นผู้คนนับเป็นพันๆ   มีผู้คนที่เป็นคนหนุ่มคนสาว ผู้ใหญ่ และคนแก่ ได้ถูกทรมานเป็นอย่างมาก  พวกเราได้มาถึง สถานที่ดูเหมือน สระว่ายน้ำใหญ่มากแต่เต็มไปด้วยไฟ  ซึ่งเต็มไปด้วยผู้ชายและผู้หญิง ในสระไฟนั้น ทุกคนมีป้ายเขียนที่หน้าอก อ่านว่า  เราได้มาอยู่ที่แห่งนี้เพราะเราไม่ได้ถวายสิบลดและการถวายต่างๆ เมื่อดิฉันได้อ่าน ดิฉันได้ถามว่า พระองค์ว่าเป็นไปได้หรือ ทำไมถึงได้มาตกนรกด้วยเหตุผลนี้   พระเยซูคริสต์ได้ตอบว่า " ใช่ เพราะว่าคนเหล่านี้คิดว่าสิบลดและการถวายนั้นไม่สำคัญ เมื่อคำพูดของเราได้แสดงไว้ และได้สั่งว่าใน   มาลาคี 3:8-9   ได้บอกว่า  “คนจะปล้นพระเจ้าหรือ แต่เจ้าทั้งหลายได้ปล้นเรา แต่เจ้ากล่าวว่า  “เราทั้งหลายปล้นพระเจ้าอย่างไร” ก็ปล้นในเรื่องสิบชักหนึ่งและเครื่องบูชานั่นซี  เจ้าทั้งหลายต้องถูกสาปแช่งด้วยคำสาปแช่ง เพราะเจ้าทั้งหลายทั้งชาติปล้นเรา”


พระเยซูคริสต์ได้บอกดิฉันว่า เมื่อไรที่คนที่เชื่อพระเจ้าได้ถือสิบลดไว้ไม่ได้ถวาย  ได้ซ่อนงานของพระเจ้า เพราะข่าวประเสริฐจะไม่ถูกประกาศ คนเหล่านี้ ได้ถูกทรมานมากกว่า คนอื่นๆ เป็นพันเท่า เพราะพวกเขารู้พระคำของพระเจ้า  แต่พวกเขาไม่ได้เชื่อฟัง


พวกเราได้ เดินไปเรื่อยๆ และพระเยซูคริสต์ได้ ให้เห็นผู้ชายคนหนึ่ง และได้เห็นจากศรีษะถึงเอว  และดิฉันได้เห็นนิมิตว่าเขาได้ตายอย่างไร  ชายคนนี้ชื่อ โรแกลดอร์ เขาได้ขับรถอยู่ ขณะนั้นมีคนหนึ่งได้เข้าใกล้เขาที่จะประกาศข่าวประเสริฐแก่เขา และได้ให้ไบเบิ้ลเขา   และโรแกลดอร์ ได้ลืมคนที่ประกาศ  และ   ที่ได้เตือนเขา ในระหว่างการเดินทาง เขาไม่ได้รู้ว่าอีกสองสามนาทีต่อมา รถเขาจะเกิดอุบัติเหตุ ตกจากหน้าผาลงเหวและเขาได้เสียชีวิต


ในระหว่างนั้น เขาได้เปิดพระคำภีร์ก่อนตายใน วิวรณ์   21:8 แต่คนขลาด คนไม่เชื่อ คนที่น่าสะอิดสะเอียน ฆาตกร คนล่วงประเวณี คนใช้เวทมนตร์ คนไหว้รูปเคารพ และคนทั้งปวงที่พูดมุสานั้น จะได้รับส่วนของตนในบึงที่เผาไหม้ด้วยไฟและกำมะถัน นั่นคือความตายครั้งที่สอง"  เมื่อโรแกลดอร์ ได้อ่าน พระคำข้อนี้ เขาก็เสียชีวิตและมาถึงนรกแห่งนี้ 

เขาได้ตายประมาณหนึ่งเดือนและยังมีเนื้อหนังมังสาให้เห็นบนใบหน้า อย่างไรก็ตาม เขาได้ถูกทรมานเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ตอนแรกเขาไม่รู้ว่าเขาได้อยู่ในนรก เพราะมีผู้ชายคริสเตียนที่ได้ประกาศที่ใกล้เขาตอนเขาอยู่ในรถ เป็นโอกาสสุดท้ายของเขา ที่เขาจะยอมรับพระเยซูคริสต์ ในทางเดียวกันกับหลายคน ที่มีโอกาสจะต้อนรับพระเยซูคริสต์ในวันนี้ ดิฉันอยากได้เชิญทุกท่านได้เปิดใจ ให้กับพระเยซูคริสต์  พระองค์เพียงผู้เดียวที่เป็นทางนั้น เป็นความจริง เป็นชีวิต(ยอห์น  14:6 ) และในทางพระเยซูคริสต์ พวกเราสามารถรอดได้เพื่อที่จะไปสวรรค์ (กิจการ 4:12 ) พระเยซูคริสต์ ได้บอกให้พวกเราติดตามพระองค์ในทางบริสุทธิ์ และสัตย์ซื่อ ขอพระเจ้าอวยพร ทุกท่าน

--- (อนุชนคนที่สี่ ไปนรก) ---

ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องทุกคน เมื่อพระองค์ได้จับมือข้าพเจ้า ตัวข้าพเจ้าเองนั้น ได้กำลังยืนอยู่บนหิน  ด้านหลังของพวกเรามีทูตสวรรค์อยู่  พวกเราได้เริ่มต้น ลงสู่ถ้ำด้วยความเร็ว สูง อย่างรวดเร็วจนเมื่อข้าพเจ้าหันหลังกลับไป ไม่เห็นทูตสวรรค์แล้ว ข้าพเจ้าเลยมีความรู้สึกกลัว ข้าพเจ้าได้ถามพระเยซูคริสต์ว่า ทูตสวรรค์หายไปไหน ทำไมไม่เห็นทูตสวรรค์ที่อยู่ข้างหลังกับข้าพเจ้า พระองค์ตอบ ทูตสวรรค์ไม่สามารถเข้ามาในสถานที่     ที่เราจะไปกัน  
พวกเรากำลังดิ่งลงและหยุด ในทันทีทันใดเหมือนลิฟท์ ข้าพเจ้าได้เห็น  ถ้ำมากมาย และพวกเราได้ผ่านเข้าไปที่  แซนด้าได้พูดถึง ถ้ำซึ่งมีกำแพงซึ่งผู้คนแขวนคอด้วยตระขอรูปตัวเอส และถูกผูกมัดด้วยกุญแจข้อมือ  ที่กำแพงมีผู้คนซึ่งนับไม่ถ้วนยาวมาก จำนวนเป็นล้านๆแขวนคออยู่ และมีหนอนชอนไชอยู่ตลอดเวลา ทั่วร่างกาย และข้าพเจ้าได้ตรงไปกำแพงอีกด้านหนึ่ง ก็เหมือนกันกับอีกด้านหนึ่ง ข้าพเจ้าเลยถามว่า ทำไมมีผู้คนมากมายเป็นล้านๆในนรกแห่งนี้  ในทันใดนั้น พระคำของพระเจ้าได้ผ่านเข้ามาในความคิด แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เข้าใจ พระองค์ตอบว่า  นรกและแดนพินาศไม่รู้จักอิ่ม   สุภาษิต 27:20(หิวที่จะ ดูดคนลงไปตกนรก แบบนิจนิรัดร์ )

เราได้จากไปจากที่นั้นและได้มาถึงอีกที่หนึ่งเรียกว่า เป็นสถานที่กว้างใหญ่ระหว่างหุบเหว มีเตาเผาใหญ่มากมาย  ข้างในเตาเผานั้นมีของเหลวเหนียวร้อนเดือด  และพวกเราได้เข้าไปใกล้ เตาเผาอันหนึ่ง คนแรกที่ข้าพเจ้าเห็นคือผู้หญิง ร่างกายของเธอ ได้ลอยอยู่และจมลงไปกับของเหลวร้อนเดือดแต่พระเยซูคริสต์ได้มองไปที่หล่อน เธอได้หยุดการเคลื่อนไหวและยังคงหยุดอยู่เหลือตัวที่ลอยในของเหลวประมาณเอว   พระองค์ได้ตรัสถามหญิงคนนั้นว่า ชื่ออะไร เธอได้ตอบพระองค์ ว่า  หล่อนชื่อ รูเบลลา  ผมของหล่อน เต็มไปด้วยของเหลวเหนียวเดือด เนื้อหลุดดำไหม้ออกมาจากกระดูก เหมือนถ่านในกองไฟ 


หนอนได้เข้าไปชอนไชทะลุลูกเบ้าตา และออกมาจากปาก และเข้าไปทางจมูกและออกมาทางหู  เมื่อไม่มีรูให้เข้าออก หนอนก็เจาะรูเข้าไปตามร่างกาย ซึ่งทำให้เจ็บปวดเป็นอย่างมาก 


หล่อนได้ร้องตะโกนว่า   พระองค์เจ้าข้า ขอได้โปรด   เอาดิฉันออกไปจากที่นี่ ได้โปรดเมตตา ดิฉันไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว  ได้โปรดหยุดการทรมานนี้ด้วย  ดิฉันไม่สามารถยืนได้อีก ต่อไป ได้โปรดเมตตาต่อดิฉันด้วย พระองค์ได้ถาม หล่อนว่า ทำไมถึงได้มาอยู่ในนรกแห่งนี้  หล่อนตอบว่า เพราะชีวิตนั้นว่างเปล่าไม่ได้มีความหมาย  ซึ่งมีป้ายเขียนเป็นแผ่นโลหะที่หน้าอก  ที่มือของเขา   เขาได้ถือขวดที่ดูลักษณะปกติไม่ได้มีอะไรพิเศษ  แต่เธอคิดว่านี่คือน้ำหอมราคาสูง แพงมาก สำหรับเธอ  รูเบลลา  ได้เอาขวดนั้นที่เต็มไปด้วยน้ำกรด และพ่นสเปรย์ลงทั่วร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ เนื่อหนังมังสา ที่มีละลายและเป็นสาเหตุแห่งความเจ็บปวด  เธอได้บอกพระองค์ว่าได้โปรดเมตตาด้วย ดิฉันไม่สามารถทนได้แล้ว   ช่วยให้ออกไปสักสองสาม วินาที เถิดพระองค์เจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่ได้บอกว่า เป็นความผิดบาปที่จะใช้น้ำหอมแต่ พระเยซูคริสต์บอกว่า หญิงคนนี้มาตกนรกเพราะน้ำหอม  พระคำของพระเจ้า กล่าวไว้ ใน พระราชบัญญัติ 5:7  "การกล่าวซ้ำถึงพระบัญญัติสิบประการ  5:7 อย่ามีพระอื่นใดนอกเหนือจากเรา  หล่อนได้มาอยู่ที่นี้ เพราะความสวย น้ำหอม (สิ่งไร้สาระของหล่อน )คือสิ่งแรกที่สำคัญในชีวิตของหล่อน  แต่อย่างไรก็ ตาม พระเยซูคริสต์ คือ กษัตริย์ เหนือ กษัตริย์  เป็นพระเจ้าเหนือพระและเทพ(ทูตสวรรค์)ทั้งปวง  พระองค์ควรเป็นสิ่งสำคัญสิ่งแรกในชีวิตของท่าน  นี้คือ เหตุผลที่หล่อนได้มาอยู่ที่นี้  เป็นเรื่องน่าเศร้า และพระเยซูคริสต์ ได้ มองเธอ และบอกว่า  รูเบลลา มันสายเกินไปสำหรับเธอ หนอนจะเป็นเตียงนอนของเธอและจะปกคลุมเธอ        เมื่อพระองค์กล่าวดังนั้น กลุ่มไฟหนาทึบก็ปกคลุมหล่อน  ขณะที่ร่างเนื้อหลุดยังอยู่ภายใต้เตาที่เดือดของเหลวร้อน หล่อนได้ถูกทรมานแบบน่ากลัวสุดขีด


พวกเราได้มากันไกลจนถึง ประตูใหญ่ยักษ์   ใหญ่มากๆ และมาถึงใกล้ๆ ประตูนั้นได้เปิดออกให้เรา   เมื่อเรามองไปด้านข้าง ได้เห็นกองคาราวานใหญ่ และข้าพเจ้าได้มองเป็นแสงสี แตกต่างกันไป เคลื่อนไหวเหมือนควันเมฆ  ในทันใดนั้นได้ยินเสียงดนตรี  ซาลซา , แจส บาเลนติโน, ประเภทร็อค, และมีดนตรีทุกรูปแบบของมิวสิคที่เป็นที่ฮิตอยู่ สามารถได้ยินจากวิทยุโทรทัศน์    เมื่อพระเยซูคริสต์ ได้ เคลื่อนโบกมือ และพวกเราเห็นดวงวิญญาณเป็นล้านๆ ถูกแขวนอยู่และผูกมัดด้วยโซ่ล่ามที่มือ และพวกเขาได้กระโดดแบบทารุณโหดร้ายท่ามกลางกองไฟในนรก   พระเยซูคริสต์ได้มองเราและบอกว่า  "มองดูสิ่งเหล่านี้ผลของ ค่าจ้างแห่งความบาปของการเต้นรำ "  พวกเขาได้เต้นรำ แบบบ้าคลั่ง เต้นแบบกระโดดไปมา เมื่อเสียงคีย์ของดนตรีดังขึ้น  เมื่อเริ่มเล่นดนตรี ซาลซ่า   พวกเขาต้องกระโดดไปกับเสียงดนตรี เมื่อดนตรี เริ่มเขาต้องกระโดดไปกับคีย์ดนตรีที่ดังขึ้น แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือพวกเขามีร้องเท้าส้นสูง หกนิ้ว แหลมถึงข้างล่าง เมื่อกระโดด ก็แทงทะลุเท้าตัวเอง และพวกเขาเหล่านั้นไม่เคยได้หยุดพัก  เมื่อพวกเขาพยามยามจะหยุด พวกปีศาจวิญญาณชั่วซาตานก็มาบังคับเอาหอกมาทิ่ม และพูดบอกว่า ให้ร้องว่า "ร้องเพลงกราบไหว้ซาตาน  ยกชูซาตาน  ยกชู ซาตาน ยกชู ซาตาน บัดนี้คืออาณาจักร ซาตานของพวกท่านทั้งหลาย ท่านไม่สามารถหยุดร้องสรรเสริญ ยกชูซาตานได้ ท่านต้องกระโดด ท่านต้องเต้นสุดๆท่านไม่สามารถหยุดแม้แต่หนึ่งวินาที 


ที่แห่งนี้เป็นสถานที่   ที่ทรมานแบบเจ็บปวด ผู้คนมามายที่เป็นคริสเตียน ผู้ซึ่งรักจักพระเจ้า แต่ได้ไปเที่ยวในงานกลางคืน ไนท์คลับ บาร์  ปาร์ตี้   เมื่อเขาตาย  บางทีบางคนสงสัยถามว่า พระคำสอนในพระคำภีร์ว่าอย่างไร   การเต้นรำผิดตรงไหน  

( ยากอบ 4:4  ) "4:4 ท่านทั้งหลายผู้ล่วงประเวณีชายหญิงเอ๋ย ท่านไม่รู้หรือว่า การเป็นมิตรกับโลกนั้นคือการเป็นศัตรูกับพระเจ้า เหตุฉะนั้นผู้ใดใคร่เป็นมิตรกับโลก ผู้นั้นก็เป็นศัตรูของพระเจ้า."  และใน พระคำ  (1 ยอห์น 2 :15-17 )" อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักต่อพระบิดาไม่ได้อยู่ในผู้นั้น 

เพราะว่าสารพัดซึ่งมีอยู่ในโลก คือตัณหาของเนื้อหนัง และตัณหาของตา และความเย่อหยิ่งในชีวิตไม่ได้เกิดจากพระบิดา แต่เกิดจากโลก    และจำไว้ว่า  โลกกับสิ่งยั่วยวนของโลกกำลังผ่านพ้นไป แต่ผู้ที่ประพฤติตามพระทัยของพระเจ้าก็ดำรงอยู่เป็นนิตย์ 

  
เพื่อนๆ พี่น้องที่รักทั้งหลาย เมื่อพวกเรา ได้ออกจากสถานที่แห่งนี้  พวกเราได้เห็นบางสิ่งเหมือนสะพาน แบ่งเขตของนรก เป็นส่วนของการทรมานในการลงโทษ พวกเราเห็นวิญญาณเหล่านั้น เดินผ่านข้ามสะพานเท้า ดูเหมือนการ์ตูนตุ๊กตา ที่อยู่บนโลก  ที่พวกเราเรียกว่า หนังการ์ตูน Treasure Trolls. พวกเขาเหล่านั้นมีผมหลายสี มีแต่ผู้ใหญ่แต่รูปร่างเด็ก ไม่มีอวัยวะเพศ สายตาพวกเขาดูท่าทางชั่วร้าย 
พระเยซูคริสต์ ได้อธิบาย ว่าจิตวิญญาณผู้หลงหาย  วิญญาณเหล่านี้ได้มีหอก ที่มือ และกำลังเดิน โชว์เหมือนงานฉลอง อยู่บนสะพาน  คือพวกที่เป็น ราชินี  พวกที่เป็นเหมือน นางแบบ บนถนนสายนั้น เมื่อพวกเขาเดิน พวกเขา แทงด้วยหอกใส่คนอื่นให้ล้มลง  พวกเขาเหล่านั้นพูดด่าว่า  จำได้ไหม วันที่พวกท่านทั้งหลายอยู่นอกโบสถ์ คริสเตียน  พวกเราไม่ต้องการที่จะเข้ามาในโบสถ์ จำได้ไหม วันที่เขาเทศนาประกาศ พวกเธอไม่ต้องการจะฟัง จำได้ไหมเวลาพวกผู้คนให้เทปเกี่ยวกับการเทศนาข่าวประเสริฐ พวกเธอได้ขว้างมันทิ้ง ไป  พวกจิตวิญญาณหลงหายเหล่านี้ พยายามจะปิดหู บอกว่า  ให้พวกฝูงปีศาจ หยุดพูดเดี๋ยวนี้ หยุดพูดเดี๋ยวนี้ หยุดพูดเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องบอกพวกเราอีกแล้ว พวกเราไม่ต้องการรู้อีกแล้ว  แต่อย่างไรก็ตาม พวกปีศาจได้มีความสนุกสนานที่ได้ทำให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นเจ็บปวด บาดเจ็บ พวกเราได้เดินกับพระเยซูคริสต์ และท่ามกลางประชากรนรก ที่หนาแน่น นั้น พวกเราได้ได้สังเกตุเห็นคนหนึ่ง ได้ ตะโกนเสียงดังออกมา มากกว่าคนอื่นๆที่ถูกเผาอยู่ว่า  พระบิดา พระบิดา ได้โปรดเมตตา ผมด้วย พระองค์ไม่ได้หยุดที่คนนี้ แต่พอได้ยินเสียงเรียก ว่าพระบิดา พระองค์ก็ได้หันมามองเขาและตอบว่า  พระบิดา  ทำไมถึงได้เรียกเราว่าพระบิดา  เราไม่ใช่บิดาของเจ้า และเจ้าก็ไม่ใช่บุตรของเรา  ถ้าเจ้าคือบุตรของเราเจ้าคงได้ไปอยู่กับเราบนสวรรค์ เจ้าเป็นบุตรของบิดาของเจ้า พวกปีศาจ ซาตาน " ในทันทีทันใดกลุ่มไฟได้มาพัดห่อและ ปกคลุมร่างกายเขา 

พระเยซูคริสต์ได้บอกข้าพเจ้า เกี่ยวกับชีวิตของผู้ชายคนนี้ ผู้ชายคนนี้เขาเรียกพระองค์ว่า พระบิดาเพราะเขาเคยรู้จักเรา เขาเคยไปโบสถ์และฟังพระวจนะของพระเจ้า  และเขาได้รับคำตอบในคำสัญญาของพระเจ้าหลายอย่าง แต่พวกเราถามว่า แล้วทำไมเขาได้มาอยู่ที่แห่งนี้ พระองค์ได้ตรัสตอบว่า  


 "เขาได้ใช้ชีวิต แบบสองอย่างในเวลาเดียวกัน เมื่อเขาได้ใช้ชีวิตทางหนึ่งกลับบ้าน และอีกทางไปโบสถ์ เขาได้คิดในใจว่า ไม่มีใครเห็นเราเพราะไม่มีใครอยู่ที่นี่ ไม่มีศิษยาภิบาล หรือพี่น้องที่โบสถ์   ผมสามารถทำอะไรที่ผมชอบก็ได้ แต่เขาไม่รู้ว่า สายพระเนตรของพระเจ้าไม่มีใครสามารถโกหก และซ่อนความผิดไปจาก พระเจ้าได้ " พระคำของพระเจ้าบอกกับพวกเราว่า " อย่าโกหกตัวเอง เพราะพระเจ้าไม่มีใครสามารถโกหกหรือ หลอกลวงพระเจ้าได้ เพราะทุกสิ่งที่มนุษย์ได้กระทำ และ   ได้หว่านคือ ผลที่เขาต้องได้รับ "  (กาลาเทีย 6:7) ผู้ชายท่านนี้ได้ ทรมานมากกว่าคนอื่นเป็นพันเท่า เขาได้จ่ายราคาผลความผิดบาปเป็นสองเท่า  เมื่อเขาทำผิดบาปเขาคิดว่าจะหลอกลวงพระเจ้าได้

  
ในทุกวันนี้ มีผู้คนอีกมากมายพยายามที่จะ แข่งกัน แสวงหารสชาติของชีวิต     ที่ตกอยู่   ใน ความถ่วงที่เกิดจากความบาป พวกเขาคิดว่า โฮโมนเซกชัวร์ ขโมย และฆาตกร เป็นบาปใหญ่กว่า การโกหกและนินทาว่าร้ายผู้อื่น  แต่ในสายพระเนตรของพระเจ้า ความผิดบาปทุกรูปแบบ    และทุกอย่าง มีน้ำหนักที่จะต้องจ่าย ในพระคำบอกว่า ค่าจ้างของความบาปคือความตาย  (โรม 6:23 )ดวงวิญญาณที่ทำบาป จะต้องตาย เอเสเคียล (18:20 )   เพื่อนๆ พี่น้องทุกท่าน ข้าพเจ้าขอเชิญท่านทั้งหลาย  ได้ให้ต้อนรับพระเยซูคริสต์ มาเป็นพระผู้ช่วยให้ รอดของท่าน    เพราะพระเจ้าได้ยื่นพระหัตถ์ (มือ)มาช่วยเหลือ   เราทุกคน   ด้วยความเมตตา ถ้าท่านกลับใจจากความผิดบาป   พระคำของพระเจ้าบอกว่า ถ้าเขาหันกลับจากทางที่ทำผิดบาป และกลับใจ    เราจะเมตตาต่อคนนั้น เป็นเรื่องที่ดีกว่า   ที่เราได้รับเชื่อในวันนี้ เพราะถ้าเรารอ  ก็จะพบว่ามันจะยากขึ้นเรื่อยๆ ขอพระเจ้าอวยพร 

-- (อนุชนคนที่ห้า  ไปนรก ) ---

พระคำของพระเจ้าบอกเราใน โรม  6:23  เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่ของประทานของพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเเจ้า

เมื่อเราได้ลงไปใต้โลก ข้าพเจ้าได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดและประสบการณ์ของความตาย  ข้าพเจ้าได้ตกใจกลัวแบบสุดขีดในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้เห็น ข้าพเจ้าได้ตระหนักในความจริงว่ามีผู้คนอยู่อย่างมากมาย ทุกคนได้ร้องตะโกนและร้องไห้ออกมา  ที่แห่งนี้ความมืดปกคลุมทั้งหมด แต่ว่าพระสิริของพระเจ้า ได้ทำให้ความมืดนั้นหายไป และพวกเราได้เห็นดวงวิญญาณเป็นพันๆ นับพัน ทุกคนร้องไห้ขอความช่วยเหลือและขอความเมตตา พวกเขาได้ร้องไห้ขอความช่วยเหลือ   ให้ช่วยเอาพวกเขาออกจากที่นี่  พวกเราได้รู้สึกเจ็บปวดเพราะพวกเรารู้ว่าพระเยซูคริสต์ได้ทุกข์ทรมานอย่างมากเมื่อเห็นพวกเขา  

หลายคนได้ร้องไห้บอกพระองค์เจ้าให้เอาเขาออกจากนรกแห่งนี้สักหนึ่งนาที หรือหนึ่งวินาที พระเยซูคริสต์ถามว่า ทำไมถึงอยากจะออกไป และพวกเขาตอบว่าพวกเขา ต้องการที่จะได้รับความรอด พวกเขาต้องการที่จะกลับใจจากบาปแท้จริงและได้รับความรอด  แต่อย่างไรก็ตาม มันสายเกินไปสำหรับพวกเขา 

ถึงประชากรโลกที่รักทุกท่าน โปรดได้ฟังที่ข้าพเจ้าพูดเดี๋ยวนี้ นี่เป็นโอกาสเดียวของพวกเราที่จะได้เลือกว่า  จะไปสิ้นสุดการดำเนินชีวิต นิจนิรันดร์ในที่ไหน  พวกท่านสามารถเลือกว่าจะไปเลือกความเป็นนิจนิรันดร์จากการไถ่บาปได้รับจิตวิญญาณได้รับความรอด หรือความเป็นนิจนิรันดร์จากคำพิพากษาที่ทำผิดบาปไปอยู่ในสถานที่แห่งนี้คือ นรก  


พวกเราได้ลงไปอย่างรวดเร็ว ข้าพเจ้าได้เห็นพื้นที่พวกเรากำลังเดินไป เหมือนจะถูกทำลายด้วยไฟ เขม่าดำ เหนียว และเปลวไฟ ออกมาจากที่นั้น มีกลิ่นที่เหม็นแบบน่ากลัวไปทุกหนทุกแห่ง พวกเรารู้สึกโศกเศร้าเสียใจ และกลิ่นเหม็นนี้เหม็นจนจะทำให้อ๊วกออกมา และมีผู้คนร้องตะโกนออกมาเสียงดัง


พวกเราเห็นดวงวิญญาณผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ซึ่งเอวจมลึกไปในเขม่าไหม้เหนียวดำ  เมื่อไรที่เขายื่นแขนออกมา เนื้อหนังมังสาก็หลุดออกจากกระดูก  พวกเราได้เห็น โครงกระดูกมีสีเทาปกคลุมอยู่ข้างใน  และพวกเราได้ถามพระเยซูคริสต์ ว่ามันคืออะไร พระเยซูคริสต์ ตอบพวกเราว่า สีเทาที่อยู่ปกคลุมอยู่ข้างแกนในของกระโครงกระดูก ของผู้คนในนรกนั้น    มันคือจิตวิญญาณของคนคนนั้นที่ติดกับดักของความผิดบาปภายใต้ร่างกายที่บาป  เหมือนที่เขียนไว้ ใน  

วิวรณ์ 14:11 และควันแห่งการทรมานของเขาพลุ่งขึ้นตลอดไปเป็นนิตย์ และผู้ที่บูชาสัตว์ร้ายและรูปของมัน และผู้ใดก็ตามที่รับเครื่องหมายชื่อของมันจะไม่มีการพักผ่อนเลยทั้งกลางวันและกลางคืน 
               

 พวกเราเริ่มเข้าใจในหลายสิ่งที่พวกเราเกิดมาไม่ได้สนใจและได้ลืมตอนอยู่บนโลก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ชัดเจนที่สุด คือข้อความที่ว่า   พวกเราจะดำเนินชีวิตอย่างไรตอนอยู่ในโลก   คือคำตอบที่ว่าพวกเราจะใช้เวลาชีวิตนิรันดร์ที่ไหน 

             
เมื่อพวกเราได้เดินไป   มือได้จับมือของพระเยซูคริสต์  พวกเราเพิ่งรู้ว่า นรกมีหลายแห่ง และมีการทรมานหลายระดับ  พวกเราได้มาถึงสถานที่ ซึ่งแบ่งขังเป็นห้องเล็กๆ ที่มีจิตวิญญาณทรมานอยู่ในแต่ละส่วน ดวงวิญญาณเหล่านั้น ได้ถูกทรมานตลอดเวลาด้วยพวกปีศาจหลายชนิด และพวกปีศาจเหล่านั้น ได้พูดสาปแช่งต่อดวงวิญญาณเหล่านั้น  พูดบอกว่า  เจ้าเป็นผู้เคราะห์ร้าย สรรเสริญซาตาน พวกเจ้าอยู่กับซาตานเพราะได้รับใช้ซาตานเหมือนที่พวกเจ้าอยู่บนโลก  ดวงวิญญาณเหล่านี้ ได้ทุกข์ทรมานจากหนอนและไฟที่เผาไหม้ เหมือนน้ำกรด ราดไปทั่วทั้งร่างกาย

พวกเราได้เห็นผู้ชายสองคน ในห้องขังเล็กๆนั้น  แต่ละคนมี มีดสั้น อยู่ที่มือพวกเขา และพวกเขาได้แทงกันไปแทงกันมา   พวกเขาได้พูดคำหยาบใส่กันและกันว่าที่พวกเขาเคราะห์ร้ายที่ได้มาอยู่ ที่แห่งนี้เพราะอีกคนทำให้มาอยู่ที่นี้พาลโทษกันไปโทษกันมา   พวกเขาได้ต่อว่าซึ่งกันและกัน ที่ได้มาอยู่ที่นี้เพราะอีกคนทำให้เขาตาบอด เกี่ยวกับความจริง และ  ทำให้ไม่ได้มารู้จักพระเยซูคริสต์  เพราะเขาบอกไม่ให้รับเชื่อในพระเยซูคริสต์  หลายครั้งหลายหน ที่ได้มีโอกาสที่จะรับเชื่อแต่อีกคนห้ามไม่ให้รับเชื่อพระเยซูคริสต์  นี้คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่แห่งนี้   ทนทุกข์ทรมานเจ็บปวดทุกวัน ทั้งกลางวันกลางคืนแบบไม่มีวันสิ้นสุด 


และได้มีนิมิตผ่านมาให้เห็น พระเยซูคริสต์ได้สำแดงให้พวกเราเห็น การดำเนินชีวิตของพวกเขาในโลก  พวกเราเห็นพวกเขาในบาร์ ด้วยกัน และได้เริ่มทะเลาะวิวาทกันจนนำไปสู่การต่อสู้   พวกเขาได้เมากันแล้ว   อีกคนหนึ่งได้ถือขวดที่แตก และอีกคนได้ชักเอามีดออกมาต่อสู้   พวกเขาได้ต่อสู้จนได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส บาดแผลนั้นทำให้พวกเขาตาย ทั้งคู่ได้มาเคราะห์ร้ายเพราะตัวเองได้ทำขึ้นและได้พูดพาลกันไปมา ในฉากชีวิตอันเป็นนิจนิรันดร์ของพวกเขา    พวกเขาได้ทุกข์ทรมานในความทรงจำที่พวกเขามีเพื่อนดีๆในโลก ซึ่งเป็นเพื่อนที่รักกันเหมือนพี่น้องในโลก  

ข้าพเจ้าอยากจะบอกในวันนี้ว่า  มีเพื่อนแท้คนเดียวและชื่อเขาคือพระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธ พระองค์เป็นเพื่อนแท้ เป็นเพื่อนที่สัตย์ซื่อ ซึ่งจะอยู่กับเราตลอดทุกเวลา  

พวกเราได้ไปต่อไปอีก และพวกเราได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งในห้องขังเล็กๆนั้น หล่อนได้หมุนไปหมุนมาในเขม่าดำเนียว ผมของเธอยุ่งเหยิง และเต็มไปด้วยเขม่าเหนียว 

ในห้องขังนั้นมีงูใหญ่อ้วน ได้เข้ามาหาเธอ ม้วนรอบตัวเธอ และได้เข้าไปในตัวของเธอ เข้าไปในอวัยวะภายในของผู้หญิง และ หล่อนได้ถูกกระทำอย่างรุนแรงด้วยการบีบบังคับ กับงูอ้วนใหญ่มีหนามยาว ในสถานที่แห่งนี้ได้มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายหลายคน ที่เป็นชู้กันทางเพศ ล่วงประเวณี และได้ถูกบังคับให้ทำอีก ทำอีก แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องล่วงประเวณีกับงูหลายตัวและมีปุ่มเดือยแหลมรอบๆยาว 6 นิ้ว

งูอ้วนได้ทำลายล้างร่างกายของเธอ ทุกครั้งที่ได้เข้าไปภายในของหล่อน เธอได้ร้องไห้อย่างเจ็บปวดทรมาน เธอร้องอย่างทุกข์ทรมานขอพระเจ้าช่วยเธออกไป เพราะหล่อนไม่ต้องการเจ็บปวดทรมานแบบนี้อีกแล้ว ช่วยทำให้หยุดด้วย เธอจะไม่ทำอีกแล้ว เธอบอกแบบนี้ ได้โปรดหยุดสิ่งนี้ด้วย หล่อนได้ขอร้องพระเจ้า เมื่องูเข้าไปภายในของเธอ ครั้งแล้วครั้งเล่า     


 พวกเราพยายามจะปิดหู เพื่อไม่ได้ยินเสียงที่เธอหวีดร้องไห้แบบเจ็บปวด แต่พวกเราสามารถได้ยินเสียงเธอ  พวกเราพยายาม ปิดหูอีกแต่มันไม่ได้ช่วย พวกเราบอกพระองค์ว่า ได้โปรดด้วยเถิด เราไม่อยากเห็นสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว หรือได้ยินสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว ได้โปรดด้วย      พระเยซูคริสต์ได้ตอบว่า  


นี้เป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าต้องรู้เห็น เพื่อพวกเจ้าจะได้บอกคนที่เหลือและยังอยู่บนโลก เพราะประชากรของเราจะไม่ถูกทำลาย เพราะประชากรของเราไม่ได้สนใจในความรอดที่ถูกต้องแท้จริง เดินบนทางแคบของถนนที่ได้รับความรอดแท้จริง             



พวกเราได้เดินไปเรื่อยๆและได้เห็นทะเลสาบใหญ่ มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก นับเป็นพันๆคน อยู่ท่ามกลางไฟที่ไม่มีวันดับ  พวกเขาได้โบกมือขอความช่วยเหลือ แต่พวกปีศาจได้บินอยู่เหนือทะเลสาบไฟนิรันดร์นี้ และพวกปีศาจได้ถือหอกรูปร่างตัวเอส สามารถแทงให้เนื้อหลุด ทำให้คนที่อยู่ทะเลสาบไฟเจ็บปวดนิรันดร์  พวกปีศาจได้หัวเราะเยาะเย้ยอย่างมาก บอกว่า พวกเจ้าได้เคราะห์ร้ายที่มาที่แห่งนี้  ตอนนี้เจ้าต้อง กราบนมัสการซาตาน  สรรเสริญซาตาน สรรเสริญซาตาน สรรเสริญซาตาน  เหมือนตอนที่พวกเจ้าอยู่ในโลกได้ทำกัน มีผู้คนนับพัน และนับพัน พวกเราหวาดกลัวอย่างที่สุดและพวกเรารู้สึกว่าถ้าพวกเราไม่ได้จับมือพระเยซูคริสต์ พวกเราอาจต้องตกอยู่ในสถานที่อันเลวร้ายน่าหวาดกลัวแบบสุดๆนี้   พวกเราได้รู้สึกหวาดกลัวจากสิ่งที่พวกเราไปพบเห็น เป็นอย่างมาก 


พวกเราได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งในระยะไกลๆ ยืนขึ้นและอยู่ในความเจ็บปวดและดิ้นรนไปมาอย่างมาก เขาถูกทำร้ายด้วยปีศาจสองตัวที่บินอยู่เหนือเขา  กำลังทรมานเขาด้วยหอก  แทงเข้าไปที่ในร่างกาย เอาซี่โครงออกมา   พวกปีศาจล้อเลียน เยาะเย้ย ตลอดเวลา    แต่มากไปกว่านั้น พระเยซูคริสต์ได้สำแดงให้เรารู้ว่า ในขณะที่เขาถูกทรมานโดยพวกปีศาจ เขาได้กังวลอยู่เสมอ เกี่ยวกับครอบครัวของเขาที่ยังอยู่บนโลก เพราะเขาไม่ต้องการให้ครอบครัวของเขามาตกอยู่ในสภาพอันทรมานอย่างแสนสาหัสในสถานที่แห่งนี้  


เขาได้กังวลเพราะว่าเขาไม่เคยให้ข้อความเกี่ยวกับการตายไถ่บาปของพระเยซูคริสต์ที่จะได้รับความรอดจากการสารภาพบาปและกลับใจจากการทำผิดบาป   เขาได้ทุกข์ทรมานเพราะว่า เขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งเขาได้มีโอกาส  ที่จะรับเชื่อในข่าวประเสริฐ และเขาเป็นบุคคลสำคัญในครอบครัวที่จะบอกข่าวประเสริฐนี้   แต่เขาเลือกที่จะไม่สนใจว่าเป็นสิ่งสำคัญและลืมมันไป และตอนนี้เขาอยู่ในนรกเขาได้เป็นห่วงลูกชายหลายคนและภรรยาของเขา 


การถูกทรมานไม่ได้มีการหยุดหย่อน พวกปีศาจได้ตัดแขน   และเขาล้มลงไปในเขม่าดำเหนียวที่ไหม้ เพราะว่าความเจ็บปวดได้ทำให้เขาดิ้นไปดิ้นมาเหมือนหนอน จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง  เนื้อหนังมังสาได้หลุดออกจากกระดูกเพราะความร้อนสูงสุดของไฟ   เขาได้คืบคลานเหมือนงู พยายามที่จะออกไปจากเขม่าดำเหนียวนี้ แต่ทุกครั้งที่พยายามจะออก พวกปีศาจเหล่านั้นก็ผลักเขาเข้าไป และได้จมลึกไปเรื่อยๆในเขม่าควันดำเหนียว  


พวกเราได้เห็นพวกปีศาจกลุ่มหนึ่ง ในสถานที่หนึ่ง และบางสิ่งข้าพเจ้าจับอยู่ในความสนใจเพราะสังเกตุเห็น พวกปีศาจไม่มีปีกหนึ่งข้าง ข้าพเจ้าเลยถามพระเยซูคริสต์  พระองค์เจ้าข้า ทำไมปีศาจนี้ได้ ปีกหายไปข้างหนึ่ง  พระเยซูคริสต์ตอบว่า ปิศาจนี้ได้ถูกส่งไปบนโลกเกี่ยวกับจุดประสงค์อย่างมีเป้าหมาย แต่ ทำงานนั้นไม่สำเร็จ เขาได้ถูกส่งกลับมานรก โดย หนึ่งในผู้รับใช้ของพระเจ้า ดังนั้น ซาตานจึงได้ลงโทษเขาด้วยการตัดปีกของปิศาจตนนี้ออก  


ดังนั้นพวกเราได้เข้าใจว่า   พวกเราที่เป็นคริสเตียน  พวกเรามีอำนาจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายและพลังอำนาจในพระนามของพระเยซูคริสต์ ที่จะไล่พวกปีศาจและเจ้าแห่งความมืดผู้ครอบครองอยู่ย่านฟ้าอากาศและในโลกนี้ในพระนามพระเยซูคริสต์ 


เพื่อนๆที่รักทุกท่าน ที่ได้ยินเรื่องราวนี้ในขณะนี้  เรื่องราวนี้ไม่ใช่เป็นการกล่าวโทษในการพิพากษาแต่ เป็นการให้รู้จักความรอดในการทรงไถ่บาปของพระเยซูคริสต์(ผู้ทรงตายไถ่บาปเพราะพระองค์รักจิตวิญญาณของเรา) ดังนั้นท่านทั้งหลายต้องกลับไปเช็คตัวเอง และเพราะพระเยซูคริสต์ เป็นผู้ทรงชันสูตรจิตใจของทุกคน (ดูหัวใจของเราต่อพระเจ้า ว่าเราเป็นอย่างไร)  ดังนั้นทำให้เราสามารถเลือกวิถีทางในการดำเนินชีวิต  เปลี่ยนทางที่เรากำลังดำเนินชีวิตที่ผิดๆ เพื่อที่จะรับความรอดจากความผิดบาปที่เราทำ และไม่ต้องถูกพิพากษา ที่จะตกนรกเป็นนิจนิรันดร์  ขอให้มอบหัวใจให้กับพระเยซูคริสต์เจ้าตอนนี้ และสารภาพความผิดบาป  เมื่อพระองค์เสด็จมาในเวลานี้ ท่านทั้งหลายได้ไปอยู่กับพระองค์ แทนที่จะมาอยู่ในสถานที่ที่ทุกข์ทรมาน ซึ่งมีผู้คนร้องไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน   ที่นั้นพวกท่านทุกคนได้เข้าใจและรู้ว่าพระเยซูคริสต์ได้จ่ายราคาแพงที่สุดที่บนกางเขนในการไถ่บาปเรา(ด้วยพระโลหิตที่บริสุทธิ์ )  


พวกเราได้เห็นหลายคนในนรก พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องมาอยู่ในนรก การดำเนินชีวิตของพวกเขา ได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเขาไม่รู้ว่าเขาทำบาป


เพื่อนๆที่รักทั้งหลาย โปรดสำรวจชีวิตของตัวเอง  อย่าคิดว่า การโกหก การขโมย  การดำเนินชีวิตตามเนื้อหนัง นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่เป็นไร เพราะทุกสิ่งเหล่านี้เป็นบาปต่อในสายพระเนตรของพระเจ้า  


พี่น้องที่รักทุกท่าน โปรดหันหลังให้กับสิ่งเหล่านั้น หยุดการกระทำเหล่านั้น เพราะข้าพเจ้าได้ให้ข้อความนี้ เพื่อท่านจะได้หยุดที่จะทำตามใจตัวเอง ส่งผลไปให้ไปทำบาป  และให้นึกถึงต่อพระพักตร์พระเจ้า ให้มากขึ้น (เพราะว่าพระเจ้าจะนำสิ่งที่เล้นรับ ทุกสิ่งทุกอย่าง มาพิพากษา  )

--- (อนุชนคนที่ หก ไปนรก ) ---
สดุดี 62:12 โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ความเมตตาเป็นของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสนองมนุษย์ทุกคนตามการงานของเขา

ในเช้าวันหนึ่ง พระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาเยี่ยมพวกเราในห้อง พระองค์ได้จับมือพวกเราและพวกเราได้ ลงไปใต้โลก หัวใจของข้าพเจ้า ได้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว จนข้าพเจ้าไม่สามารถบรรยายได้ และข้าพเจ้ารู้แต่เพียงว่าข้าพเจ้าไม่สามารถ หลุดจากการจับมือกับพระองค์ พระผู้ช่วยของข้าพเจ้าได้  ข้าพเจ้ารู้สึกได้ว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นชีวิตและเป็นแสงสว่างแก่ชีวิตและเป็นความหวังทั้งหมดของข้าพเจ้า ไม่อย่างนั้นข้าพเจ้าคงต้องหลงอยู่ในนรกตลอดไปเป็นนิจนิรันดร์  ข้าพเจ้าไม่เคยคิดว่าข้าพเจ้าจะไปที่แห่งนี้ ข้าพเจ้าไม่เคยเชื่อว่ามีนรกแห่งนี้อยู่ด้วย ถึงแม้ข้าพเจ้าเป็นคริสเตียน ข้าพเจ้าคิดว่า สถานที่ระหว่างสวรรค์กับนรก คือ นรกในความคิดของข้าพเจ้า แต่พระเยซูคริสต์ได้ ให้ข้าพเจ้าเห็นว่านรกนั้นมีอยู่จริงๆ และให้รู้ว่านรกมีสภาพเป็นอย่างไรด้วย  เมื่อข้าพเจ้าได้ไปถึงนรก ข้าพเจ้ารู้สึกช็อค สะเทือนใจกับสถานที่แห่งนี้ และพวกปีศาจได้วิ่งหลบ  เพราะไม่มีพวกปีศาจตนใดสามารถอยู่ในพระสิริของพระเจ้าได้ 

  
พวกเราได้ยินเสียงร้องของผู้คนที่ไม่สามารถหนีไฟนรกไปไหนได้ เสียงร้องตะโกนดังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขารู้ว่าพระเยซูคริสต์เสด็จมา อยู่ที่แห่งนี้ เพราะเขารู้ว่ามีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถเอาพวกเขาออกจากที่แห่งนี้ได้ คือพระเยซูคริสต์ พวกเขามีความหวังแต่ความหวังนั้นได้หมดสิ้นไป   เป็นความผิดหวังเมื่ออยู่ในนรกแล้ว 
  
พวกเราได้จับมือซึ่งกันและกันกับพระเยซูคริสต์ และได้มาถึงกลุ่มของความบาปแห่งการล่วงประเวณี พระเยซูคริสต์ ได้หันไปมองดูคนหนึ่งซึ่งไฟปกคลุมตัวเขา เมื่อพระเยซูคริสต์ได้มองตัวหญิงคนนี้ เธอได้ออกมาจากไฟนรก แบบช้าๆ แต่เธอก็ได้ทุกข์ทรมานแบบไม่มีที่สิ้นสุด พวกเราได้เห็นเธอแบบไม่สวมเสื้อผ้า พวกเราเห็นร่างกายของเธอทั้งหมด แต่ร่างของเธอสกปรกไปทั่วทั้งตัวและส่งกลิ่นเหม็น ผมของหล่อนได้ยุ่งเหยิง รกรุงรัง และเธอมีดินเหนียวที่เป็นสีเหลือง เขียวอยู่ตามตัว    ลูกกะตา และปาก ได้ร่วงหล่นลงเป็นชิ้นๆ เธอไม่มีหู แต่รู้  มือของเธอดำเป็นกระดูก เป็นตะโกถ่าน  หล่อนได้พยามยามที่จะเอาเศษส่วนชิ้นเนื้อของเธอมาต่อกัน ให้เหมือนเดิมจากที่หลุดร่วงลงไป แต่ยิ่งทำให้หล่อนมีความเจ็บปวดมากขึ้น หล่อนได้สะเทือนใจและร้องตะโกนมากขึ้น เรื่อยๆแบบไม่สิ้นสุด 

ร่างเธอเต็มไปด้วยหนอน และมีงูอยู่ที่แขน  พันอยู่รอบแขน งูนั้นใหญ่ หนามีหนามรอบๆตัว   เธอได้มีหมายเลข หก หก หก 666 จารึกฝังไว้ที่หน้าผากของเธอ ซึ่งหมายเลขนี้ได้กล่าวถึงในวิวรณ์  (วิวรณ์ 13:16-18)

13:16 และมันยังได้บังคับคนทั้งปวง ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย คนมั่งมีและคนจน   ไทและทาส ให้รับเครื่องหมายไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผากของเขา
13:17 เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำการซื้อขายได้ นอกจากผู้ที่มีเครื่องหมายนั้น หรือชื่อของสัตว์ร้ายนั้น หรือเลขชื่อของมัน
 13:18 ในเรื่องนี้จงใช้สติปัญญา ถ้าผู้ใดมีความเข้าใจก็ให้คิดตรึกตรองเลขของสัตว์ร้ายนั้น เพราะว่าเป็นเลขของบุคคลผู้หนึ่ง เลขของมันคือหกร้อยหกสิบหก
  
หล่อนได้มีแผ่นโลหะ จารึกไว้ที่หน้าอก ไม่รู้ทำจากอะไร มันไม่ถูกเผาไหม้ หรือถูกทำลายไปด้วยไฟ แต่ป้ายนั้นเขียนด้วยภาษาที่เราไม่รู้จักแต่พวกเราเข้าใจว่าแปลว่า ดิฉันได้มาอยู่ที่นี่เพราะล่วงประเวณี 
พระเยซูคริสต์  ได้มองเธอและถามว่า  เอเลน่า ทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่นี้ ขณะที่เธอได้ตอบพระองค์ ร่างกายของเธอหมุนไปมาด้วยความเจ็บปวดทรมาน เธอมาอยู่ที่นี้เพราะทำบาปแห่งการล่วงประเวณี  

เธอขอพระเยซูคริสต์ ยกโทษบาปหลายครั้งหลายหน ดังนั้นพวกเราได้เห็นนิมิตของเธอ ตอนขณะที่เธอได้ตาย เมื่อตอนได้เสียชีวิต เธอได้มีเพศสัมพันธ์กับคู่รักอีกคนหนึ่ง      ในหลายคน  เพราะว่า เธอคิดว่าเขาได้ไปทัวร์ที่อื่น   แต่อย่างไรก็ตามเขาคนนั้นได้กลับมา จากการงานของเขา และได้พบเธอนอนและมีเพศสัมพันธ์อยู่กับคนอื่น คู่รักคนนั้นได้เข้าไปที่ห้องครัว และถือมีดด้ามใหญ่ ฟันเข้าไปที่หลัง เธอเสียชีวิตและได้มาที่นรกแห่งนี้ เหมือนกับตอนเธอได้ตาย แบบไม่มีเสื้อผ้า ในนรก ทุกสิ่งทุกอย่าง วัสดุ และเธอยังคงมีมีดอีโต้ด้ามใหญ่ปักอยู่ที่หลัง  ทำให้เธอทรมานหนักขึ้น และ เธอได้มาอยู่ที่นี่ เจ็ดปีแล้ว 


เธอได้จำได้ว่าเธอตายอย่างไร เธอได้จำได้ว่ามีคนหนึ่งพยามยามที่จะบอกเธอถึง เรื่องราวของพระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นคนเดียวที่จะช่วยให้เธอรอดได้ แต่ตอนนี้ สายไปสำหรับเธอ และทุกคนที่อยู่ในนรก  

พระคำของพระเจ้าได้บอกเราหลายแห่ง บาปแห่งการล่วงประเวณี  คือว่าการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน  หรือ การมีเพศสัมพันธ์ นอกเหนือจากการแต่งงาน
 จงหนีจากการล่วงประเวณี
1 โครินธ์ 6:13 อาหารมีไว้สำหรับท้อง และท้องก็สำหรับอาหาร แต่พระเจ้าจะทรงให้ทั้งท้องและอาหารสิ้นสูญไป แล้วร่างกายนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับการล่วงประเวณี แต่มีไว้สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า และองค์พระผู้เป็นเจ้ามีไว้สำหรับร่างกาย  1 โครินธ์ 6:18 จงหลีกเลี่ยงเสียจากการล่วงประเวณี ความบาปทุกอย่างที่มนุษย์กระทำนั้นเป็นบาปนอกกาย แต่คนที่ล่วงประเวณีนั้นทำผิดต่อร่างกายของตนเอง
เมื่อพระเยซูคริสต์ได้ พูดจบ เธอก็ถูกปกคลุมไปด้วยลูกไฟใหญ่ และเราไม่สามารถเห็นเธออีก แต่เราได้ยินเสียงเนื้อหนังของเธอที่ไหม้ และเสียงร้องแบบทรมาน เจ็บปวดสุดขีด ข้าพเจ้าไม่สามารถจะหาคำไหนมาบรรยายได้  แต่เราได้เดินต่อไปกับพระเยซูคริสต์  พระองค์ได้สำแดงให้เราเห็นดวงวิญญาณ ผู้คนมากมายในที่นี้ คือ คนที่ไหว้รูปเคารพ อิฐ หิน ดิน รูปหล่อ พระต่างๆ ที่มาแทนที่พระเจ้าเที่ยงแท้ และพวกที่เล่นเวทมนตร์ คาถาอาคม พวกที่ผิดศีลธรรม พวกที่ล่วงประเวณี พวกโกหก และโฮโมเซกชัวร์ และพวกเราตกใจกลัวแบบสุดๆ สิ่งที่พวกเราต้องการคือ ออกไปจากที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด แต่พระเยซูคริสต์ บอกว่า  เป็นสิ่งจำเป็นที่พวกเรามาเห็นที่แห่งนี้ และให้มองดูที่แห่งนี้ เพื่อที่พวกเราจะได้ไปบอกคนอื่นๆ เพื่อที่เขาจะเชื่อ 

พวกเราได้เดินต่อไปกับพระเยซูคริสต์ จับมือกันไปอย่างแน่นหนา จนพวกเรามาถึงส่วนนี้ได้   สิ่งที่พบติดตาตรึงใจข้าพเจ้าแบบไม่ลืมที่จะบอกคนบนโลก   คือ พวกเราเห็นชายหนุ่มอายุ ยี่สิบสามปี จมอยู่ในกองไฟครึ่งตัวจากเอว   แต่พวกเราไม่ได้รู้ว่าเขามาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลอะไร แต่มีหมายเลข 666 อยู่ที่หน้าผาก ของเขา และเขามีโลหะที่หน้าอก ที่อ่านว่า ผมมาที่นี่ด้วยอาการปกติ เมื่อเขายื่นมือออกมาขอ ความเมตตาจากพระเยซูคริสต์   พระคำของพระเจ้ามีบอก  สุภาษิต 14:12 มีทางหนึ่งซึ่งคนเราดูเหมือนถูก แต่มันสิ้นสุดลงที่ทางของความมรณา 

เมื่อพวกเราอ่านป้ายนี้อีกครั้ง ว่า ผมมาอยู่ที่นี่เพราะอาการปกติ  พวกเราถามพระเจ้าว่า เป็นมาอย่างไร เป็นไปได้หรือที่เขามาอยู่ที่แห่งนี้ ด้วยอาการปกติ ด้วยเหตุผลนี้เองหรือ  ดังนั้นพระเยซูคริสต์จึงถามเขาว่า แอนดูร์ ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี้   เขาได้ตอบว่า  พระองค์เจ้าข้า เมื่อเวลาอยู่บนโลกผมอยู่บนโลก ผมคิดว่าการฆ่าคนและการขโมยเป็นบาป นี้คือเหตุผลที่ผมไม่ได้รับเชื่อและมีความสนิทสนมกับพระเยซูคริสต์
สดุดี 9:17  คนชั่วจะต้องถอยไปสู่นรก คือประชาชาติทั้งมวลที่ลืมพระเจ้า
แอนดูร์ได้ทำผิดครั้งยิ่งใหญ่ที่ได้แยกเยะกับความผิดบาป เหมือนคนหลายคนที่มีชีวิตอยู่บนโลก พระคัมภีร์ได้บอกอย่างชัดเจนว่า   ค่าจ้างของความบาปคือความตาย และของประทานของพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ 
โรม 6:23 เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่ของประทานของพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
มากไปกว่านั้น พระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้กล่าวเกี่ยวกับความผิดบาป  ไม่เคยที่จะแยกเยะความบาป เพราะทุกอย่างที่บาปก็คือ บาป  แอนดูร์ ได้มีโอกาสที่จะรับเชื่อพระเยซูคริสต์ แต่เขาได้ปฏิเสธ โอกาสนั้น ที่พระเจ้าได้มอบให้แก่เขา  บางทีบางคนได้มีโอกาสเป็นพันครั้งที่จะรู้จักพระเยซูคริสต์เจ้า แต่เขาไม่ต้องการที่จะรู้จัก และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงตกนรก และลูกไฟใหญ่ได้พัดปกคลุมเขาไปทั้งร่างกายเขา และไม่ได้เห็นเขาอีก 


พวกเราได้เดินต่อไปกับพระเยซูคริสต์ ในระหว่างนั้นในระยะไกลพวกเราได้เห็นบางสิ่งบางอย่างตกลงมา สภาพเหมือนก้อนเนื้อสักอย่าง เมื่อเรามาไกล้ พวกเราเห็นว่าเป็นผู้คนที่เพิ่งจะกำลังถูกโยนตกลงไปในนรกในขณะนั้น เดี๋ยวนั้น   แบบคนที่เพิ่งจะตายบนโลก โดยปราศจาก  จากการรับเชื่อในพระเยซูคริสต์ ในหัวใจอย่างแท้จริง พวกเขาได้มาถึงนรกแห่งนี้  พวกเราได้เห็นชายหนุ่ม ซึ่งพวกปีศาจได้  ตรงเข้ามาที่เขา และได้เริ่มทำลายล้างเขา ในทันใดนั้น และร่างกายเขาได้เต็มไปด้วยหนอนในทันทีทันใด  เขาได้ร้องตะโกนว่า ไม่ อะไรกันนี่ หยุดเดี๋ยวนี้นะ เราไม่ต้องการมาอยู่ที่แห่งนี้ หยุดเดี๋ยวนี้ นี้คงเป็นฝันร้าย เอาเราออกไปจากที่แห่งนี้  เขายังไม่รู้ตัวว่าเขาได้ตายแล้ว เพราะเขาตายแบบไม่มีพระเยซูคริสต์อยู่ในหัวใจ พวกปีศาจได้เล่นอย่างสนุกสนาน ล้อเลียนเขา  เยาะเย้ยเขา และตลอดเวลาได้ทรมานร่างกายเขา หลังจากนั้น หมายเลข 666 ได้ปรากฏที่หน้าผากเขา และมีแผ่นโลหะอยู่ที่หน้าอก พวกเราไม่รู้ว่าด้วยเหตุใดที่เขามายังนรกแห่งนี้   แต่พวกเราแน่ใจว่าเขาไม่มีวันที่จะได้ออกไปจากนรกอีกแน่ 


พระเยซูคริสต์ได้บอกว่า การทรมานดวงวิญญาณในนรกพวกนี้จะหนักขึ้นหลังจากวันพิพากษา ถ้าพวกเขาได้ถูกทรมานตอนนี้ ยังน่ากลัวขนาดนี้  ข้าพเจ้าคิดไม่ออก และนึกไม่ได้ว่า หลังวันพิพากษาจะขนาดไหน คงไม่มีคำพูดที่จะบรรยายได้  


พวกเราไม่ได้เห็นเด็กๆ แต่พวกเราเห็นคนหนุ่มสาวเป็นพันๆ  ผู้ใหญ่ทั้งหญิงและชาย ทุกชนชาติแต่อย่างไรก็ตาม ในนรกไม่ได้มีชนชาติ เชื้อชาติ หรือชนชั้นของสังคม  ทุกอย่างเต็มไปด้วย  การทุกข์ทรมาน และการลงโทษ  และมีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องการคือ ต้องการจะออกไปจากนรก สักหนึ่งนาที 


 พวกเขาต้องการน้ำเพียงแค่สักหนึ่งหยดเพื่อที่จะให้ลิ้นได้สดชื่น เหมือนเรื่องราวของเศรษฐีกับลาซาลัส 16:19 ยังมีเศรษฐีคนหนึ่งนุ่งห่มผ้าสีม่วงและผ้าป่านเนื้อละเอียด รับประทานอาหารอย่างประณีตทุกวันๆ16:20 และมีคนขอทานคนหนึ่งชื่อลาซารัส เป็นแผลทั้งตัว นอนอยู่ที่ประตูรั้วบ้านของเศรษฐี16:21 และเขาใคร่จะกินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของเศรษฐีนั้น แม้สุนัขก็มาเลีย16:22 อยู่มาคนขอทานนั้นตายและเหล่าทูตสวรรค์ได้นำเขาไปไว้ที่อกของอับราฮัม ฝ่ายเศรษฐีนั้นก็ตายด้วย และเขาก็ฝังไว้16:23 แล้วเมื่ออยู่ในนรกเป็นทุกข์ทรมานยิ่งนัก เศรษฐีนั้นจึงแหงนดูเห็นอับราฮัมอยู่แต่ไกล และลาซารัสอยู่ที่อกของท่าน16:24 เศรษฐีจึงร้องว่า `อับราฮัมบิดาเจ้าข้า ขอเอ็นดูข้าพเจ้าเถิด ขอใช้ลาซารัสมาเพื่อจะเอาปลายนิ้วจุ่มน้ำมาแตะลิ้นของข้าพเจ้าให้เย็น ด้วยว่าข้าพเจ้าตรำทุกข์ทรมานอยู่ในเปลวไฟนี้'


แต่เป็นไปไม่ได้อีกแล้วว่าเขาจะเลือกว่าเขาจะใช้เวลานิจนิรันดร์ที่ไหน เพราะพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะใช้เวลาแบบไม่มีพระเจ้า พระเจ้าไม่เคยส่งใครไปนรกแต่พวกเขามาถึงนรกเพราะตามความประพฤติแห่งการกระทำของเขา 


ในกาลาเทีย  6: 7 อย่าทำผิดอีก อย่าหลงเลย พระเจ้าไม่ใช่มาล้อเล่นได้  ท่านจะหลอกลวงพระเจ้าไม่ได้ เพราะว่าผู้ใดหว่านอะไรลง ก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้น 

วันนี้ข้าพเจ้าได้ให้โอกาสที่ยิ่งใหญ่แก่ท่าน ที่จะเปลี่ยนทางการดำเนินชีวิตเป็นนิจนิรันดร์ พระเยซูคริสต์ ทรงรอพวกท่านอยู่ ที่จะเข้าไปนั่งในหัวใจของท่าน พระคำภีร์ บอกว่า  ขณะที่ท่านมีชีวิต ท่านยังมีความหวัง วันนี้ท่านยังมีลมหายใจ มีชีวิต อย่าได้พลาดโอกาสที่จะได้รับเชื่อ เพราะอาจเป็นโอกาสสุดท้ายของท่าน                

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น